การพัฒนาสุขภาวะทางจิตของนักเรียนด้วยจิตศึกษา

Starfish Academy
Starfish Academy 202 views • 20 วันที่แล้ว
การพัฒนาสุขภาวะทางจิตของนักเรียนด้วยจิตศึกษา

การเรียนตามหลักสูตรของโรงเรียนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เด็ก ๆ เติบโตและพัฒนาได้อย่างรอบด้าน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักเรียนชั้นอนุบาล ประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา ต่างก็ต้องการกิจกรรมเสริมเพื่อเพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับพวกเขา โรงเรียน คุณครู รวมถึงผู้ปกครอง จึงควรมีกิจกรรมนอกหลักสูตรให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เพิ่มเติม หนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดการพัฒนาทางการเรียนรู้ได้ก็คือ กิจกรรมที่ประยุกต์ด้วยจิตศึกษา หรือ กิจกรรมจิตศึกษา เป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาความคิดของนักเรียน โดยเน้นความสุขทางจิตใจเป็นหลัก

ความหมายของ จิตศึกษา

พระมหาอวิรุทธิ์ โสภณสุธี นิยาม จิตศึกษา ว่า ‘เป็นเรื่องของความคิดของทุกคน โดยที่เราทุกคนทำความเข้าใจกัน’ หรือพูดกันง่าย ๆ จิตศึกษาก็เป็นเหมือนการศึกษาเข้าไปยังจิตใจของคนคนหนึ่งนั่นเอง ส่วน สุขภาวะทางจิตของนักเรียน มาจากการรวมคำ 3 คำ ได้แก่ คำว่า ‘สุข’ ที่หมายถึง ความสุขทั้งทางกายและทางใจ คำว่า ‘ภาวะ’ คือ ความเป็น ดังนั้น ‘สุขภาวะ’ จึงหมายถึง ความเป็นสุข ส่วนคำที่ 3 ‘จิต’ ในที่นี้คือ ความคิด เมื่อรวมเป็น ‘สุขภาวะทางจิต’ จึงหมายถึง ความเป็นสุขทางความคิด และ สุขภาวะทางจิตของนักเรียน จึงแปลได้ว่า ภาวะความเป็นสุขทางความคิดของนักเรียน

สุขภาวะทางจิตของนักเรียน มีความสำคัญที่ผู้สอนทุกคนจะต้องศึกษาเอาไว้ เพราะการกระทำทุกอย่างของตัวผู้สอนและวิธีการสอน จะต้องเป็นสิ่งที่เกิดจากการทำความเข้าใจความคิดและความต้องการของตัวผู้เรียนก่อน เมื่อตัวผู้สอนเข้าใจก็จะสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม จิตศึกษา จึงถือเป็นวิธีการในการทำให้ผู้สอนหรือคุณครูสามารถเข้าใจความคิดของนักเรียนได้ เมื่อประยุกต์จิตศึกษาเข้าไปในกิจกรรมก็จะทำให้เข้าใจนักเรียนมากขึ้น ตัวผู้สอนเองก็ควรทำความเข้าใจตนเองเช่นกัน เพื่อที่จะได้พัฒนาการสอนของตนเองให้ตรงกับนักเรียนได้มากขึ้น อีกทั้งควรพัฒนาตนเองก่อนนำความรู้ไปพัฒนานักเรียนและผู้อื่น

ตัวอย่างกิจกรรมจิตศึกษาที่ใช้ในการพัฒนานักเรียน โดยเน้นที่กิจกรรมสำหรับเด็กชั้นอนุบาลและประถมศึกษา

1. กิจกรรมบทบาทสมมติ ให้นักเรียนแสดงบทบาทสมมติ เช่น พระอาจารย์ใช้ตัวอย่างเป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธกาล กิจกรรมนี้ทำให้เด็ก ๆ ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น เนื่องจากได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ซึ่งคุณครูสามารถใช้การแสดงเรื่องอื่น ๆ ตามบทเรียนได้

2. กิจกรรมคัดเลือกสีของหนังยางพลาสติกในตู้น้ำ เป็นการประยุกต์ใช้อุปกรณ์ที่มี โดยกำหนดกติกาให้กับนักเรียน เช่น กิจกรรมนี้พระอาจารย์ให้นักเรียนหยิบสีหนังยางตามที่บอก ทำให้เด็ก ๆ จดจ่อจิตใจอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ แม้ว่าอาจจะได้สีที่ไม่ถูกต้องก็ตาม

3. กิจกรรมวางขวดน้ำบนศีรษะ การทำกิจกรรมจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือสำหรับเด็กเล็ก สามารถให้จับขวดไว้ได้ แต่ต้องห้ามให้ร่วงหล่น เพื่อให้เด็ก ๆ อยู่นิ่ง มีสมาธิกับขวดน้ำ และสำหรับเด็กโต ห้ามจับ เพื่อให้ฝึกความอดทนและความสงบในจิตใจ ระหว่างกิจกรรมมีเพลงเปิดให้ฟัง เพื่อให้รู้สึกสงบขึ้น และทำเหมือนเป็นเกมสนุก ๆ ไม่ใช่คำสั่ง แค่ให้เขารู้สึกมีเครื่องยึดเหนี่ยวสมาธิ นั่นก็คือขวดน้ำ

4. กิจกรรมใช้หลอดเป่าลูกปิงปอง ให้เด็ก ๆ เป่าลูกปิงปองไปตามเส้นทางที่กำหนดให้ เพื่อให้เขามีสมาธิอยู่กับการเป่าลูกปิงปองให้ไปถึงเป้าหมาย

5. กิจกรรมกรอกน้ำใส่ขวด ให้นักเรียนแข่งกันกรอกน้ำใส่ขวด สามารถใช้น้ำแบบไหนก็ได้ให้น่าสนใจ เช่น น้ำที่มีสีสัน เพื่อให้จิตใจของนักเรียนจดจ่ออยู่กับการเทน้ำ ผู้ปกครองสามารถประยุกต์ใช้กับการทำงานบ้านได้

6. กิจกรรมเรียงนอต ให้เด็ก ๆ เรียงนอตโดยใช้ดินสอหยิบนอตในกระดาน ช่วยให้เกิดทักษะทางร่างกาย ได้กล้ามเนื้อ และได้ความสงบทางจิตใจ

7. กิจกรรมอื่น ๆ เช่น ช่วยกันส่งถ้วยน้ำ, เรียงสีหนังยาง, ทำท่าทางตามที่กำหนด, ช่วยกันใช้เท้าดันลูกบอกไม่ให้หล่น (ได้ทักษะการทำงานเป็นทีม)

ข้อแนะนำการทำกิจกรรม

กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้จดจ่อกับการเคลื่อนไหวของสิ่งของ ได้มีสมาธิกับสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ เด็ก ๆ จะได้รู้จักสติ รู้สึกสงบ ในแต่ละกิจกรรมเด็กพิเศษสามารถเข้าร่วมได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาก็จะรู้สึกเป็นส่วนรวมกันมากขึ้นอีกด้วย การทำกิจกรรมสามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วง คือ

ช่วงที่ 1. ทำตามสบาย ให้เชียร์เพื่อนได้ หรือจัดเป็นการแข่งขัน เพื่อให้ลุ้น และกระตุ้นตัวเด็กให้เกิดความตื่นเต้น ช่วงนี้จิตใจและหูจะจดจ่ออยู่กับเพื่อน เด็ก ๆ จะได้ความเฮฮาสนุกสนาน เป็นการทำให้เด็กเปิดใจทำกิจกรรม ควรจัดให้นักเรียนที่แข่งกันเป็นคนที่มีทักษะระดับเดียวกัน โดยค่อย ๆ แนะนำและให้กำลังใจคนที่ยังทำไม่ได้ และอย่ากดดันเด็กมากจนเกินไป

ช่วงที่ 2. ให้ทำแบบเงียบ ๆ เพียงลำพัง เมื่อเงียบก็จะได้ความสงบ จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำมากขึ้น หลังทำกิจกรรมควรมีรางวัลให้บ้าง โดยให้ทุกคนได้รับเท่า ๆ กัน เป็นสิ่งเดียวกัน เช่น ให้รางวัลเป็นขนมแบบที่เด็ก ๆ ชอบ เพราะไม่ได้ต้องการให้เด็ก ๆ ตึงเครียดกับการแข่งขัน ไม่ต้องการผู้แพ้ชนะ แต่ต้องการให้เด็ก ๆ มีสมาธิ

การวัดประเมินผล

ทั้งนักเรียนชั้นประถมและมัธยม ผู้สอนไม่ควรใช้การวัดผลด้วยตัวเลข หรือหลักการชี้วัดที่แน่นอนแต่ควรวัดจากความเข้าใจของผู้สอนว่ามีความเข้าใจในตัวเด็กอย่างไรบ้าง เนื่องจากกิจกรรมจิตศึกษาจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของเด็ก ๆ ทั้งทางด้านความคิดและอารมณ์ การวัดผลจึงเป็นการสังเกตการเรียนรู้ของเด็ก ๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรถูกหรือผิด เช่น ผู้สอนควรสังเกตความสามารถที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ สังเกตว่าเด็ก ๆ มีทักษะที่ดีขึ้นจากเกมก่อน ๆ หรือมีการแก้ปัญหาได้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งแต่ละกิจกรรมอาจจะเหมาะสมกับนักเรียนแตกต่างกัน หนึ่งกิจกรรมจะไม่สามารถใช้วัดได้กับทุกคน

การเติบโตของคนเราไม่เหมือนกันด้วยปัจจัยรอบด้าน เราทุกคนต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องใช้วิธีการที่ต่างกันในการเข้าอกเข้าใจ และเห็นใจผู้อื่น และก่อนจะทำความเข้าใจผู้อื่นได้ ตัวเราเองก็ควรมีทัศนคติที่ดี ประกอบไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเห็นใจ ซึ่งในฐานะของผู้สอน ผู้แนะนำ ทั้งคุณครู และผู้ปกครอง ก็ควรมีจิตเมตตาให้กับเด็ก ๆ ซึ่งความเมตตานี้จะทำให้ผู้สอนมีความพยายามในการมองหาวิธีการสอนที่เหมาะสมกับตัวเด็กได้โดยไร้อคติ เด็ก ๆ ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากเราก็จะเปิดใจรับในสิ่งที่สอน และพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดกลับไปยังตัวเขาเอง

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

เครืองมือครู
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
1:30 ชั่วโมง

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
Starfish Academy

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

Starfish Academy
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
2:00 ชั่วโมง

การสอนภาษาไทย (3R)

การสอนภาษาไทยของมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างเป็นระบบเข้าใจง่ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
การสอนภาษาไทย (3R)
Starfish Academy

การสอนภาษาไทย (3R)

Starfish Academy
2330 ผู้เรียน
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
1:30 ชั่วโมง

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...

Starfish Academy
Starfish Academy
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Starfish Academy

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

Starfish Academy
5900 ผู้เรียน
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
2:00 ชั่วโมง

การสอนคณิตศาสตร์ (3R)

คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
Starfish Academy

การสอนคณิตศาสตร์ (3R)

Starfish Academy
2308 ผู้เรียน

Related Videos

แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA
01:03:03
Starfish Academy

แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA

Starfish Academy
449 views • 10 เดือนที่แล้ว
แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA
TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข
05:24
Starfish Academy

TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข

Starfish Academy
308 views • 2 ปีที่แล้ว
TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข
โรงเรียนพัฒนาตนเอง : โรงเรียนวัดสันป่าสัก | โรงเรียนบ้านหนองเงือก
15:04
Starfish Academy

โรงเรียนพัฒนาตนเอง : โรงเรียนวัดสันป่าสัก | โรงเรียนบ้านหนองเงือก

Starfish Academy
574 views • 1 ปีที่แล้ว
โรงเรียนพัฒนาตนเอง : โรงเรียนวัดสันป่าสัก | โรงเรียนบ้านหนองเงือก
Starfish Country Home School Foundation [ENG]
03:43
Starfish Academy

Starfish Country Home School Foundation [ENG]

Starfish Academy
59 views • 2 ปีที่แล้ว
Starfish Country Home School Foundation [ENG]