สวย หล่อ อย่างไรให้พอดี

“พอเธอใส่แว่น ดูไม่สวย มันเฉิ่มๆ อย่างไงก็ไม่รู้” พอได้ยินแบบนี้ วันถัดมาซื้อคอนแทคเลนส์ใส่เลยจ้า เพราะอยากสวย แต่เอาจริงๆนะคะ สุดท้ายก็ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ค่ะ เพราะตาอักเสบกลับมาใส่แว่นเหมือนเดิม

“แกตัวดำแบบนี้ จีบสาวไม่ติดหรอก เพราะผู้หญิงเขาชอบแบบขาวๆ ตี๋” เพื่อนคนนั้นเค้าจิตตกไปเลยจ้า

เชื่อว่า พอเราเริ่มเป็นวัยรุ่น เรามักจะต้องเผชิญกับการถูกเปรียบเทียบรูปร่างของเราว่า สวยไม่สวย หล่อไม่หล่อ โดยปรากฎการณ์แบบนี้ อาจจะทำให้เราพอใจหรือไม่พอใจกับรูปร่างของตนเอง ในจิตวิทยามีคำๆ หนึ่งที่เรียกว่า Body image หรือการรับรู้รูปร่าง ภาพลักษณ์ของตนเอง มันหมายถึง การที่เราคิดและรู้สึกกับรูปร่างของเราอย่างไร ทั้งในเรื่องของส่วนสูง น้ำหนัก หน้าตา สีผิว และอื่นๆ ซึ่งเราอาจจะรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบกับร่างกายของเราก็ได้ (หากเราชอบในรูปร่างของตนเอง ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจ ไม่รู้สึกด้อย สุขภาพจิตดี)

 แน่นอนค่ะว่า วัยรุ่นทุกคน ก็คงไม่ได้ชอบ ไม่ได้รู้สึกดี กับรูปร่างของเรา บางคนก็อยากจะสูงมากกว่านี้ ผอมมากกว่านี้ อยากขาว ไม่มีสิว อยากจมูกโด่ง ตา 2 ชั้น และอื่นๆ ตามที่วัยรุ่นต้องการ

การมีความอยากแบบนี้ วัยรุ่นต้องการจะสื่ออะไร

เพราะวัยรุ่นยังไม่พอใจกับรูปร่าง ภาพลักษณ์ของตนเอง จึงเกิดความอยากขึ้นมา “อยากที่จะดูดีขึ้น” เรามองว่า ความอยากนี้ไม่ผิดอะไร และยังรู้สึกว่า ความอยากนี้จะนำไปสู่การสอนให้วัยรุ่น หัดคิดแก้ปัญหาว่า “ฉันจะทำอย่างไร ให้รูปลักษณ์ฉันดีขึ้น จนฉันรู้สึกชอบในรูปร่างของตนเอง”

เราจึงขอนำเสนอ 2 วิธีการ ดังนี้ค่ะ

1. ปรับในบางอย่างที่ปรับได้ ให้ตนเองดูดีขึ้น

เชื่อว่าบางส่วนในร่างกายมันปรับได้และควรปรับ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ความอ้วน ความสูง (ถ้ายังอยู่ในวัยที่สูงได้อยู่นะ) สมัยที่เป็นวัยรุ่น เราอ้วนมากเลยค่ะ สูงแค่ 153 ซม. แต่หนักไปถึงเกือบ 70 กก. ในตอนนั้นไม่อยากออกไปไหนเลย เพราะแต่งตัวอย่างไรก็ไม่สวย มันรู้สึกแย่ 

จนกระทั่งช่วงนั้น โรงเรียนเขามีการบังคับว่า ใครที่น้ำหนักเกิน ต้องไปออกกำลังกายทุกวัน เราก็เป็นบุคคลที่ต้องไปออกกำลังกาย ซึ่งน้ำหนักมันก็ลดลงเหลือประมาณ 45 กก.พอน้ำหนักมันลด รู้สึกชอบตนเองมากเลย ที่เราดูสวยขึ้น และสุขภาพดีด้วย หรือแม้กระทั่งตอนนี้

(ต่อให้ไม่วัยรุ่นแล้วก็เถอะ) ก็รู้สึกว่าต้นขาใหญ่ มันอ้วนลงขา พอไปออกกำลังกาย แล้วเราเห็นว่ามันลดลง เราก็ดีใจ อย่างไรก็ดี เราอาจจะต้องเลือก และไตร่ตรองในวิธีการลดน้ำหนักว่าจะเลือกวิธีไหนที่เราไม่เดือดร้อน ซึ่งในตัวอย่างก็เลือกได้ดี เพราะรร.บังคับ ว่า ให้เราออกกำลังกาย (แต่ถ้าหาก เรามาเลือกเป็นวิธีการอดข้าว กินข้าวแล้วไปอาเจียน หรือกินยาลดน้ำหนัก วิธีเหล่านี้ก็อาจจะไม่เหมาะสม)

2. การยอมรับ และพอใจในบางส่วนของตนเองที่อาจจะไม่สามารถปรับได้

อันนี้เป็นเรื่องสมัยจบป.ตรีใหม่ๆ อยากหน้าเรียวค่ะ ( V shave ก็มา) แต่พอเห็นวิธีการทำและค่าใช้จ่าย เรารู้สึกว่ามันน่าจะเดือดร้อน ดังนั้นเมื่อมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็ต้องปรับใจ หาวิธีการชอบตนเองในแบบนี้ให้ได้ โดยพี่นีทก็ทำหลายวิธีมากเลย เช่น

พยายามถามตนเองว่า มันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ จริงๆ หน้าก็ไม่ได้บวมขนาดนั้นนะ และหาจุดที่เราสวย/หล่อ หรือชอบในร่างกายของเราเอง เพื่อไม่ให้เราเกิดปมด้อย ซึ่งส่วนที่เราชอบในร่างกายก็คือฟัน ฟันเราสวยมาก เรียงกันเป็นระเบียบ (แบบไม่ได้ดัดฟัน ย้ำอีกครั้งไม่ได้ดัดฟันนะคะ)

พยายามหารูปต่างๆ ว่ายืนยันว่า หน้าเราไม่ได้แย่ แบบว่า รูปนี้เราก็ดูสวยนะ รูปนั้นเราก็ดูโอเค

พยายามแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ให้เราดูดี (แบบไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง)

สุดท้ายแล้วก็รู้สึกว่า งั้นก็สวยแบบนี้ก็ได้ (น้องๆ ลองเอาไปทำตามได้ )อนุญาตค่ะ และวิธีที่ยกมานี้ ก็ตรงกับวิธีการของบทความที่นำมาอ้างอิงด้วย

ในฐานะที่เราเองก็เคยเป็นวัยรุ่น และก็เคยไม่พอใจกับรูปร่างตนเองมาก่อน อยากบอกน้องๆ อีกครั้งว่า ส่วนใดในร่างกายที่ไม่พอใจ และเกี่ยวข้องกับสุขภาพ อยากเชียร์ให้เราปรับร่างกายให้ดีขึ้น ด้วยวิธีที่ถูกต้อง แต่ถ้าส่วนไหนไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ก็อยากจะเชียร์ ให้เราชอบรูปร่าง/ภาพลักษณ์ที่เราเป็นแบบนี้ เพราะ สวย/หล่อ แบบที่เราเป็นมันวิเศษกว่า สวยหล่อแบบเหมือนกันหมดจริงๆค่ะ

อ้างอิง 

https://www.medicalnewstoday.com/articles/249190#tips