วันนี้เราจะไม่ขอพูดถึงเทคนิคการสอน หรือการดูแลเด็กนักเรียน แต่เราจะกลับมามองที่ตัวคุณครู และการจัดการกับชีวิตของเรากัน ว่าควรทำอย่างไรให้ครูอย่างเราสามารถสร้างสมดุลในการใช้ชีวิต และการทำงานได้ ซึ่งจะทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข และสุขภาพดี
มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
อะไรคือสมดุลชีวิตการทำงาน?
ถ้าแปลจากภาษาอังกฤษก็คือ Work-Life Balance ซึ่งความหายของดารสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต ไม่ใช่การที่คุณทำการสอนเสร็จแล้วออกไปเที่ยวและหางานอดิเรกทำแบบมากมายก่ายกองพร้อมเตรียมการเรียนการสอน แต่เป็นการบริหารเวลา และจัดการกับความรู้สึกอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคำแนะนำดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อบังคับที่คุณต้องทำ แต่เราแนะนำให้คุณค่อย ๆ ปรับเวลาของตนเอง และการทำงานทีละนิดจะเป็นการดีกว่าค่ะ
1.รู้ ว่าเมื่อไหร่ควรพูดว่า “ไม่!”
เช็คดูว่างานที่คุณรับมาเกินตัวคุณเกินไปหรือไม่ ลองนึกย้อนไปที่สิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือการรู้ลิมิตของตัวเอง อย่าฝืนจนมากเกินไป นอกจากจะทำให้สิ่งที่รับผิดชอบออกมาไม่มีประสิทธิภาพแล้ว อาจจะทำให้ตัวคุณเองเหนื่อยล้า และไม่สนุกกับมัน การปฎิเสธเพราะคุณมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอยู่เต็มล้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
2.ให้ความสำคัญกับสุขภาพมาก ๆ
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน จะช่วยให้คุณสงบขึ้น ออกกำลังกายบ้างถ้ามีโอกาส หมั่นตรวจสุขภาพ และที่สำคัญ “เวลานอน” จะต้องไม่น้อยจนเกินไป ให้ความสำคัญกับสุขภาพให้มาก ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเราใช้เงินมากแค่ไหน ซื้อสุขภาพกลับคืนมาไม่ได้
3.พบเพื่อนนอกโรงเรียนก็ดีนะ
โดยทั่วไปครูมักจะจับกลุ่มกับครูในการออกไปเที่ยวข้างนอกหลังการทำงานแสนเหน็ดเหนื่อย แต่ก็อย่าลืมเพื่อนของคุณที่ไม่ใช่ครูล่ะ ลองจัดตารางนัด พบปะเพื่อนต่างสายอาชีพ พูดคุยแบ่งปันความเป็นไปจนบางครั้งอาจจะทำให้คุณลืมเรื่องห้องเรียนไปบ้าง นั่นแหละ คือสิ่งที่คุณควรลอง
4.พักจากเครื่องมือสื่อสารบ้าง
ไลน์เด้งไม่หยุด อีเมลล์ส่งงานก็ส่งมารัว ๆ ลองกำหนดเวลาส่ง และเวลาที่คุณคอยอยู่ให้คำปรึกษา หรือเปิดแชทคุยงาน อาจจะยากในช่วงแรก ๆ แต่เวลาของคุณจะมีมากขึ้น แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ยังดี ให้คุณได้อยู่กับตัวเอง และพักบ้าง ซึ่งมันจะส่งผลดีอย่างมากต่อสุขภาพจิตและพลังงานในตัวคุณ
5.ปล่อยมันไป
อย่ายึดติดกับสิ่งเล็กน้อย ความผิดพลาด หรือแผนที่วางไว้ไม่เป็นดั่งที่ต้องการ การบ้านก็ต้องตรวจ เอกสารก็ต้องทำ การแบกรับหน้าที่มากมายอาจทำให้คุณสับสนและเผลอตัวให้ความกลัดกลุ้มรายล้อมจนลืมไปว่าโลกมันยังไม่แตก และบางครั้งเราก็ควรปล่อยมันไปบ้าง มันคือเรื่องปกติ ที่สิ่งไหนจะไม่เป็นไปตามคาด คุณทำดีที่สุดแล้วสำหรับในวันนี้ เราควบคุมให้ทุกอย่างให้เป็นไปตามต้องการไม่ได้ ดังนั้นหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยมันไปบ้างเถอะค่ะ
พวกเราก็ขอให้คุณครูทุกคนมีความสุขกับการสอน และอย่าลืมนำคำแนะนำดังกล่าวไปปรับใช้ เพื่อการรักษาสมดุลชีวิตและการทำงานของคุณ ที่จะส่งผลทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ใช้ชีวิตการเป็นครูอย่างมีคุณภาพกันนะคะ :)
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.wgu.edu/heyteach/article/how-achieve-work-life-balance-teacher1807.html
Related Courses
Micro Learning ห้องเรียนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (เด็กสมาธิสั้น)
แนวทางการดูแลรักษาเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการมีภาวะสมาธิสั้น ต้องผสมผสานการรักษาหลายวิธี ถ้าเด็กได้รับการดูแลช่วยเหลือที่ถูกต้ ...
Micro Learning ห้องเรียนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (เด็กสมาธิสั้น)
Micro Learning หลักการเขียนภาษาไทย ป.1-3
หลักการเขียนภาษาไทย ป.1-3 เป็นการเรียนรู้ในรูปแบบของ Micro Learning เรื่อง การแต่งประโยค การเขียนตามจินตนากา ...
Micro Learning หลักการเขียนภาษาไทย ป.1-3
Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ฉากทัศน์เป็นฐาน ทำให้นักเรียน เรียนรู้ผ่านสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับความจริง และช่วยพัฒนาทักษะในการทำ ...
Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss
Micro Learning - แหล่งเครื่องมือช่วยครูจัดการชั้นเรียน
Starfish แหล่งเครื่องมือช่วยครูในจัดการชั้นเรียนที่หลากหลาย เช่น Starfish Labz, Starfish Class แบบเว็บไซต์ และแ ...
Micro Learning - แหล่งเครื่องมือช่วยครูจัดการชั้นเรียน
Related Videos
ออกแบบการเรียนรู้อย่างไรให้ตอบโจทย์ “แก้ปัญหาริเริ่มใช้วิธีการใหม่ๆคิดค้นและปรับเปลี่ยนวิธีการ” ตามเกณฑ์ ว.PA
สรุปโครงการ TSQP ทั้ง 2 รุ่น