5 วิธีสร้างสมดุลชีวิตอาชีพครู

วันนี้เราจะไม่ขอพูดถึงเทคนิคการสอน หรือการดูแลเด็กนักเรียน แต่เราจะกลับมามองที่ตัวคุณครู และการจัดการกับชีวิตของเรากัน ว่าควรทำอย่างไรให้ครูอย่างเราสามารถสร้างสมดุลในการใช้ชีวิต และการทำงานได้ ซึ่งจะทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข และสุขภาพดี
มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
อะไรคือสมดุลชีวิตการทำงาน?
ถ้าแปลจากภาษาอังกฤษก็คือ Work-Life Balance ซึ่งความหายของดารสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต ไม่ใช่การที่คุณทำการสอนเสร็จแล้วออกไปเที่ยวและหางานอดิเรกทำแบบมากมายก่ายกองพร้อมเตรียมการเรียนการสอน แต่เป็นการบริหารเวลา และจัดการกับความรู้สึกอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคำแนะนำดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อบังคับที่คุณต้องทำ แต่เราแนะนำให้คุณค่อย ๆ ปรับเวลาของตนเอง และการทำงานทีละนิดจะเป็นการดีกว่าค่ะ
1.รู้ ว่าเมื่อไหร่ควรพูดว่า “ไม่!”
เช็คดูว่างานที่คุณรับมาเกินตัวคุณเกินไปหรือไม่ ลองนึกย้อนไปที่สิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือการรู้ลิมิตของตัวเอง อย่าฝืนจนมากเกินไป นอกจากจะทำให้สิ่งที่รับผิดชอบออกมาไม่มีประสิทธิภาพแล้ว อาจจะทำให้ตัวคุณเองเหนื่อยล้า และไม่สนุกกับมัน การปฎิเสธเพราะคุณมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอยู่เต็มล้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
2.ให้ความสำคัญกับสุขภาพมาก ๆ
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน จะช่วยให้คุณสงบขึ้น ออกกำลังกายบ้างถ้ามีโอกาส หมั่นตรวจสุขภาพ และที่สำคัญ “เวลานอน” จะต้องไม่น้อยจนเกินไป ให้ความสำคัญกับสุขภาพให้มาก ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเราใช้เงินมากแค่ไหน ซื้อสุขภาพกลับคืนมาไม่ได้
3.พบเพื่อนนอกโรงเรียนก็ดีนะ
โดยทั่วไปครูมักจะจับกลุ่มกับครูในการออกไปเที่ยวข้างนอกหลังการทำงานแสนเหน็ดเหนื่อย แต่ก็อย่าลืมเพื่อนของคุณที่ไม่ใช่ครูล่ะ ลองจัดตารางนัด พบปะเพื่อนต่างสายอาชีพ พูดคุยแบ่งปันความเป็นไปจนบางครั้งอาจจะทำให้คุณลืมเรื่องห้องเรียนไปบ้าง นั่นแหละ คือสิ่งที่คุณควรลอง
4.พักจากเครื่องมือสื่อสารบ้าง
ไลน์เด้งไม่หยุด อีเมลล์ส่งงานก็ส่งมารัว ๆ ลองกำหนดเวลาส่ง และเวลาที่คุณคอยอยู่ให้คำปรึกษา หรือเปิดแชทคุยงาน อาจจะยากในช่วงแรก ๆ แต่เวลาของคุณจะมีมากขึ้น แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ยังดี ให้คุณได้อยู่กับตัวเอง และพักบ้าง ซึ่งมันจะส่งผลดีอย่างมากต่อสุขภาพจิตและพลังงานในตัวคุณ
5.ปล่อยมันไป
อย่ายึดติดกับสิ่งเล็กน้อย ความผิดพลาด หรือแผนที่วางไว้ไม่เป็นดั่งที่ต้องการ การบ้านก็ต้องตรวจ เอกสารก็ต้องทำ การแบกรับหน้าที่มากมายอาจทำให้คุณสับสนและเผลอตัวให้ความกลัดกลุ้มรายล้อมจนลืมไปว่าโลกมันยังไม่แตก และบางครั้งเราก็ควรปล่อยมันไปบ้าง มันคือเรื่องปกติ ที่สิ่งไหนจะไม่เป็นไปตามคาด คุณทำดีที่สุดแล้วสำหรับในวันนี้ เราควบคุมให้ทุกอย่างให้เป็นไปตามต้องการไม่ได้ ดังนั้นหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยมันไปบ้างเถอะค่ะ
พวกเราก็ขอให้คุณครูทุกคนมีความสุขกับการสอน และอย่าลืมนำคำแนะนำดังกล่าวไปปรับใช้ เพื่อการรักษาสมดุลชีวิตและการทำงานของคุณ ที่จะส่งผลทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ใช้ชีวิตการเป็นครูอย่างมีคุณภาพกันนะคะ :)
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.wgu.edu/heyteach/article/how-achieve-work-life-balance-teacher1807.html
Related Courses
Social and cultural awareness classroom

ห้องเรียนความตระหนักรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม เป็นการออกแบบการเรียนรู้เพื่อสร้างความตระหนักรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม ให้ผู้เ ...


Social and cultural awareness classroom

Environmental Education (EE)

The goal of the course is to explain to educators what environmental education is, what its goal ...
โค้ชชิ่งสู่เส้นทางที่ใช่ด้วย MBTI : Myers-Briggs Type Indicator

Coaching Through MBTI : Myers-Briggs Type Indicator เป็นคอร์สที่จะทำให้คุณครูได้เปลี่ยนจากครูที่ทำหน้าที่สอนให้เป็นโ ...

โค้ชชิ่งสู่เส้นทางที่ใช่ด้วย MBTI : Myers-Briggs Type Indicator

บูรณาการ : การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เน้นให้ผู้เรียนเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน แก้ปัญห ...
Related Videos

PA กับ DPA ต่างกันอย่างไร เข้าใจระบบวิทยฐานะใหม่แบบไม่หลงทาง


สรุปโครงการ TSQP ทั้ง 2 รุ่น
![Starfish Country Home School Foundation [ENG]](https://img.youtube.com/vi/eeT-qLyd87U/mqdefault.jpg)