เหตุผลที่เด็กยุคใหม่ไม่ยอมคุยกับพ่อแม่

Starfish Academy
Starfish Academy 14440 views • 4 ปีที่แล้ว
เหตุผลที่เด็กยุคใหม่ไม่ยอมคุยกับพ่อแม่

เด็กยิ่งโตความกล้าแสดงความรู้สึก หรือแสดงความรักจะน้อยลงโดยเฉพาะกับพ่อแม่ ยิ่งพ่อแม่ท่านไหนที่ทำงานประจำ เรียกว่าแทบจะไม่ได้คุยกับลูกอยู่เลยก็ว่าได้ แถมปัจจุบันนี้การสื่อสารก็มีให้เลือกมากมาย โดยคุณพ่อคุณแม่เองอาจจะคุยกับลูกเพียงแค่ในแอปพลิเคชันต่างๆ ทำให้เด็กๆ และพ่อแม่เองเกิดช่องว่างกัน ทำให้สื่อสารกันไม่เข้าใจ จนกลายเป็นว่าเด็กๆ ไม่อยากที่จะเข้ามาพูดคุยกับพ่อแม่ได้

 

แต่จริงๆ แล้วเหตุผลที่เด็กยุคใหม่ไม่ยอมคุยกับคุณพ่อคุณแม่จะเป็นเพราะแอปพลิเคชันที่เข้ามาแทนที่การสื่อสารตัวต่อตัว หรือแท้จริงแล้วเกิดจากเหตุผลอื่นกันแน่ วันนี้เราจะพาไปดูกัน

 

เหตุผลที่เด็กยุคใหม่ไม่ยอมคุยกับพ่อแม่ได้แก่

 

1. ปรึกษาทีไรก็ดุด่า ทั้งที่ยังฟังไม่จบ

เมื่อไหร่ที่ลูกมาคุยด้วย คุยยังไม่ทันจะถึงไหนก็มีเรื่องให้ต้องถูกขัดทุกที พูดยังไม่ทันจะจบเล่ายังไม่ทันจะหมด พ่อแม่ก็จับผิดไป สอนไป ซึ่งทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่เองควรที่จะถามเป็นช่วงๆ ตามกรณี ไม่ควรดุด่า หรือถามขัดจังหวะทั้งๆ ที่ยังฟังไม่ทันจะจบ บางทีลูกเล่ายังไม่ทันจะจบ ก็สรุปว่าเราผิดซะแล้ว คราวนี้เด็กๆ จะเล่าอะไรอีกก็คงจะไม่อยากเล่าแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าเล่าอะไรไปก็ผิดไปซะหมดทุกอย่าง ทำให้เด็กๆ ไม่อยากคุยกับพ่อแม่อีกต่อไปเลยค่ะ

 

2. เพราะไว้ใจเลยปรึกษา แต่ทำไมพ่อแม่ต้องเล่าต่อ

การที่ลูกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟัง เพราะเขาเองก็คิดว่าสิ่งที่เขาเล่านั้นคุณพ่อคุณแม่จะเป็นที่ปรึกษาที่ดีและเป็นคนเก็บความลับในเรื่องแย่ๆ ของเขาเอาไว้ แต่ก็มีพ่อแม่บางคนที่ชอบเอาเรื่องที่ลูกมาเล่าให้ฟัง ไปเล่าข่มทับคนอื่นต่อ หรือเอาไปเปรียบเทียบให้คนอื่นๆ ฟัง ซึ่งการเล่าต่อในลักษณะแบบนี้ เด็กๆ จะคิดว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังแฉเขานั้นเอง ยิ่งหากวันไหนลูกมาได้ยินตอนคุณพ่อคุณแม่กำลังเล่าล่ะก็ รับรองได้เลยว่าให้ตายยังไงต่อไปนี้ก็ไม่อยากเล่าหรือพูดเรื่องราวต่างๆ ให้พ่อแม่ฟังอีก เพราะเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องหน้าอายสิ้นดี

 

3. เมื่อมีเรื่องอยากปรึกษา แต่พ่อแม่กลับไม่ตั้งใจฟัง

บางครั้งเรื่องที่ลูกอยากพูดและพยายามเล่าแบบตั้งอกตั้งใจให้เราฟัง แต่คุณพ่อคุณแม่กลับไม่ตั้งใจฟัง หรือแค่ฟังผ่านๆ ทำให้เรื่องที่ลูกรู้สึกว่ามันตื่นเต้น ก็ทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเล่าขึ้นมา เพราะพ่อแม่เองนั้นแหละที่ฟังแบบปัดๆ ไป ยิ่งเป็นลูกที่สนิทกับพ่อแม่ หากวันนไหนที่เราไม่ตั้งใจฟังเขา ก็จะทำให้เขาเสียกำลังใจได้ หากเกิดขึ้นบ่อยๆ เข้า คราวนี้ลูกก็จะเริ่มไม่อยากเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังได้อีก เพราะเขาคิดว่าเมื่อเขาเล่าไปแล้วทุกคนไม่ตั้งใจฟัง แบบนี้ก็ไม่ต้องเล่าดีกว่านั่นเองค่ะ

 

4. พ่อแม่มีเรื่องเหนื่อยเยอะแล้ว ไม่อยากเอาเรื่องเหนื่อยมาเพิ่มให้ท่าน

เพราะลูกบางคนก็อาจจะมีความเกรงอก เกรงใจเรา เพราะพ่อแม่บางคนก็ทำงานกันดึกดึ่น กลับบ้านมาทีก็เรียกได้ว่าแทบจะเอาร่างกายเข้าไปในห้องพักผ่อนเลย ทำให้เด็กๆ บางคนคิดว่าไม่อยากจะเล่าให้อะไรให้พ่อแม่ฟัง เพราะกลัวจะไปสร้างความรำคาญ และเกรงใจพ่อแม่ที่ทำงานมาเหนื่อยๆ จึงเลี่ยงที่จะพูดคุยเป็นการดีเสียกว่า เมื่อเป็นแบบนี้บ่อยๆ ก็ทำให้ลูกเขินอายที่พูดคุยกับพ่อแม่ได้ ส่วนพ่อแม่เองก็ไม่ได้สังเกตลูก และคิดว่าลูกดูแลตัวเองได้ ก็กลับกลายเป็นว่า ต่างกันก็ต่างไม่พูดคุยกัน จนทำให้เกิดช่องว่างในครอบครัวได้ง่ายๆ เลยค่ะ

 

5. จะปรึกษาทีไร ก็ยุ่งทุกที

พ่อแม่บางคนคิดว่าการคุยกับลูกเพียงไม่กี่นาทีทำให้เสียเวลาหลายๆ อย่าง ทำให้เมื่อลูกอยากที่พูดคุยหรือปรึกษาเรื่องต่างๆ ทีไร ก็กลับกลายเป็นว่าพ่อแม่ก็ไม่ว่างทุกที ถูกปฏิเสธทุกครั้งที่จะปรึกษา หรือบางกรณีก็อาจจะเป็นเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกันระหว่างพ่อแม่และลูก บางครั้งพ่อแม่ก็อยากจะคุยด้วย แต่ลูกทำการบ้าน หรือบางครั้งลูกก็อยากจะคุยด้วย พ่อแม่ก็เอาแต่ทำงาน ซึ่งเรื่องนี้แต่ละบ้านก็ต้องหาจังหวะกันดีๆ นะคะเพราะมิเช่นนั้นเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ก็อาจจะกลายเป็นว่าทั้งครอบครัวไม่มีเวลาจะคุยกันเลย ทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านก็ดูห่างเหินกันด้วย ยังไงก็ลองหาเวลานั่งคุยกันหยุดทำโน้นนี่ดู ดีกว่าหมางเมินไม่คุยกันนานเข้าจะไม่ดีนะคะ

 

6. เพราะลูกคิดว่าเราโตแล้ว ควรจะรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ได้

เด็กๆ มักจะคิดว่าตัวเองโตพอที่จะรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ของตัวเองได้แล้ว ยิ่งในช่วงวัยรุ่นเด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะคิดแบบนั้น อยากที่จะจัดการปัญหาทุกๆ อย่างเองมากกว่าที่จะให้พ่อแม่คอยทำให้ตลอดเวลา เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เด็กๆ นั้นดูโตขึ้น ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้จะเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะบางปัญหานั้นมันหนักเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว จนบางคนไม่กล้าที่จะปรึกษาพ่อแม่เพราะกลัวว่าจะดูไม่โต ก็กลับกลายเป็นว่าไปปรึกษาเพื่อนๆ แทน ซึ่งข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับครอบครัวแล้วล่ะค่ะว่าจะจัดการปัญหานี้ยังไง ทางที่ดีก็ควรที่คุยพูดคุย ถามไถ่สุขทุกข์ของลูก ให้เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันไปเลยก็ได้ค่ะ ลูกจะได้กล้าที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟังได้ทุกเรื่องนั่นเอง

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก และสังคม
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
basic
2:00 ชั่วโมง

แนวทางลดการบูลลี่ในสถานศึกษา

การถูกรังแก ล้อเลียน ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่นส่งผลให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวลทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน ปัญหาเหล่านี้จ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
แนวทางลดการบูลลี่ในสถานศึกษา
Starfish Academy

แนวทางลดการบูลลี่ในสถานศึกษา

Starfish Academy
5 (1 ratings)
เครืองมือครู
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
basic
2:00 ชั่วโมง

Collaborative classroom design

เรียนรู้ทักษะความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) หลักการออกแบบกิ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Collaborative classroom design
Starfish Academy

Collaborative classroom design

Starfish Academy
5 (2 ratings)
การเลี้ยงลูกที่มีความต้องการพิเศษ
การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง
basic
2:00 ชั่วโมง

การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก

เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้

Starfish Academy
Starfish Academy
การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
Starfish Academy

การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก

Starfish Academy
5 (1 ratings)
1450 ผู้เรียน
พัฒนาการเด็ก
การบริหารจัดการตนเอง
basic
2:00 ชั่วโมง

ตำหนิอย่างไรไม่ให้เสียความเชื่อมั่นในตนเอง

การตำหนิผู้อื่น การวิพากษ์ วิจารณ์ หาข้อตำหนิผู้อื่นเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป “คงไม่มีใครที่ ไม่เคยถูกตำหนิ และไม่มีใคร ไม่ตำหนิผู้อื่น” ...

Starfish Academy
Starfish Academy
ตำหนิอย่างไรไม่ให้เสียความเชื่อมั่นในตนเอง
Starfish Academy

ตำหนิอย่างไรไม่ให้เสียความเชื่อมั่นในตนเอง

Starfish Academy
4.8 (5 ratings)
3662 ผู้เรียน

Related Videos

ทำอย่างไร…เมื่อลูกติดจอ
24:59
Starfish Academy

ทำอย่างไร…เมื่อลูกติดจอ

Starfish Academy
938 views • 2 ปีที่แล้ว
ทำอย่างไร…เมื่อลูกติดจอ
เราควรเลี้ยงลูกแบบไหน? แบบเพื่อน vs แบบพ่อแม่
30:00
Starfish Academy

เราควรเลี้ยงลูกแบบไหน? แบบเพื่อน vs แบบพ่อแม่

Starfish Academy
277 views • 2 ปีที่แล้ว
เราควรเลี้ยงลูกแบบไหน? แบบเพื่อน vs แบบพ่อแม่
Collaboration Teamwork & Leadership
04:04
Starfish Academy

Collaboration Teamwork & Leadership

Starfish Academy
2116 views • 4 ปีที่แล้ว
Collaboration Teamwork & Leadership
สอนลูกรู้จักรักและเคารพสิทธิของตนเอง
08:32
Starfish Academy

สอนลูกรู้จักรักและเคารพสิทธิของตนเอง

Starfish Academy
419 views • 3 ปีที่แล้ว
สอนลูกรู้จักรักและเคารพสิทธิของตนเอง