“อัมพร” จี้ครูปรับการสอนสู่ Active Learning โรงเรียนต้องมีหลักสูตรของตัวเอง

1 ปีที่แล้ว
1054 views
โดย Starfish Labz
“อัมพร” จี้ครูปรับการสอนสู่ Active Learning โรงเรียนต้องมีหลักสูตรของตัวเอง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดการประชุมในวันนี้เพื่อสร้างความเข้าใจ ความชัดเจนให้แก่หน่วยปฏิบัติในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา โดยมีขอบข่ายเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบาย แนวทาง และแผนการขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ผ่าน Active Learning รวมถึงการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา การจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 แนวทางและเครื่องมือการวัดและประเมินผลสมรรถนะของผู้เรียน โดยคาดหวังว่า ในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางฯ ผ่านกระบวนการ Active Learning ในระดับสถานศึกษาจะมีหลักสูตรสถานศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ในระดับครูผู้สอนจะมีหน่วยการเรียนรู้บูรณาการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และส่งผลให้นักเรียนมีสมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21

ทั้งนี้ สพฐ.จึงต้องการขับเคลื่อนหลักสูตรไปสู่กระบวนการจัดการเรียนการสอนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียน โดยการดำเนินการในการขับเคลื่อนกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) นั้น สพฐ.จะมุ่งพัฒนาครูให้เข้าใจ ว่า อะไรคือการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning และจะจัดการเรียนการสอนอย่างไรให้ตอบโจทย์การเรียนรู้ดังกล่าว ซึ่งแม้จะมีการอบรมครูไปแล้ว กว่า 4 แสนคน แต่เราต้องการให้เกิดการขับเคลื่นในการปฏิบัติเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นครูและผู้บริหารจะต้องกลับไปปรับปรุงหลักสูตรของสถานศึกษาให้มุ่งสู่การเป็นสมรรถนะ ซึ่งทุกโรงเรียนจะต้องไปทำหลักสูตรของสถานศึกษาตัวเองให้เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ เช่น โรงเรียนในพื้นที่ภาคใต้มีการอนุรักษ์เรื่องวัฒนธรรมโนราห์ โรงเรียนก็ต้องมุ่งทำหลักสูตรท้องถิ่นให้เด็กได้เรียนรู้วัฒนธรรมของตัวเอง เป็นต้น จากนั้นเมื่อได้หลักสูตรสถานศึกษาที่เป็นหลักสูตรของตัวเองแล้วครูจะต้องนำหลักสูตรไปคลี่ เพื่อกำหนดหน่วยการเรียนออกแบบการวัดและประเมินผล เพื่อให้เกิดการประเมินผลสัมฤทธิ์ของเด็กที่แท้จริงว่าเด็กเรียนไปแล้วเกิดสมรรถนะการเรียนรู้แบบไหนอย่างไร

“ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล โดยให้เด็กเป็นคนแสวงหาความรู้เอง แล้วให้ครูเป็นคนคอยอำนวยการชี้แนะแนวทาง (Coaching) ส่วนทางผู้อำนวยการเขตพื้นที่และผู้อำนวยการโรงเรียนเองก็ต้องส่งเสริมสนับสนุนให้ครูได้ทำการวัดและประเมินผลที่เปลี่ยนไปตามบริบท สุดท้ายแล้วเมื่อทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางเดียวกันก็จะเป็นการขับเคลื่อน Active Learning ให้เป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ที่ไม่ได้ต้องการคนเรียนเก่งสอบเก่งเท่านั้น แต่ต้องการคนที่ทำงานเป็น คิดเป็น ทำเป็น แตกต่างกันไปตามบริบทของท้องถิ่นและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่”

“จากนี้ไปครูต้องปรับแผนการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ และการวัดประเมินผลใหม่ให้สอดรับกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพราะสมัยก่อนครูจะต้องยืนสอนอยู่หน้ากระดาน เป็นผู้บอกความรู้ แต่จากนี้ไปครูต้องเป็นคนอำนวยการ และวิธีการแสวงหาความรู้เด็กต้องทำเอง โดยสิ่งเหล่านี้ที่เราอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนเขตพื้นที่ ผอ.โรงเรียนจะต้องปรับการส่งเสริมสนับสนุนให้ครูในเรื่องการวัดและประเมินผลด้วย เพราะสุดท้ายแล้วจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนการกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning อย่างแท้จริง”เลขาฯ กพฐ.กล่าว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : www.obec.go.th/archives/646066


มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

ข่าวที่เปิดอ่านมากที่สุด

รมว.ศึกษาฯ มอบนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ลดภาระครู –นักเรียน จัดหาแท็บเล็ตฟรี ลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา

14.09.23

‘คุรุสภา’ แถลงหลังมีประเด็นร้อง ‘รมว.ศธ.’ คืนคุรุสภาให้ ‘ครู’ ยกเลิกสอบ ‘ใบประกอบวิชาชีพครู’

08.09.23

“ตรีนุช” ฝากครูบรรจุใหม่ ขยันเก็บเกี่ยวประสบการณ์พัฒนาการศึกษา

17.08.23

"ตรีนุช" เตือนพวกเรียกใต้โต๊ะสอบครู เจอโทษวินัยสูงสุด ย้ำต้องโปร่งใสอย่าเล่นนอกกติกา

25.08.23

เสริมสร้างคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์ พัฒนาทักษะ และสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 ด้วยกระบวนการ Active learning

29.08.23

STARFISH EDUCATION ผ่านเข้ารอบสุดท้าย DIPROM HEROES 2023 ผู้นำพันธุ์ดี สร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจเพื่อสังคม

22.08.23