Octava Foundation และ Starfish Education ร่วมมือให้ทุน เพิ่มศักยภาพโรงเรียนผ่านนวัตกรรมการศึกษา เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กไทย ด้วยโครงการ Future School Transformation Program

“Future School Transformation Program”  Empowering Schools with Ed-Innovation for Students’ Futures

มูลนิธิ Octava Foundation (https://octavafoundation.org/) จากประเทศสิงคโปร์ได้ประสานความร่วมมือกับ Starfish Education (https://www.starfishedu.org/) จากประเทศไทย ทั้งสององค์กรเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมและขยายผลกระทบเชิงบวกออกสู่ประเทศ เน้นการเพิ่มศักยภาพให้แก่โรงเรียนผ่านนวัตกรรมการศึกษาเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่เด็กนักเรียนไทย 

โดยทั้งสององค์กรได้ร่วมกันสร้างประโยชน์ผ่านโครงการ “Future School Transformation Program” เพื่อสนับสนุนการศึกษาและให้โอกาสแก่เด็กที่ขาดโอกาสในประเทศไทย ผ่านการสนับสนุน “ทุน” ให้แก่โรงเรียนชายขอบ หรือโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลให้แก่โรงเรียนในประเทศไทย 10 โรงเรียน จำนวน 10 ทุน เป็นระยะเวลา 3 ปี (2567-2569) รวมเป็นเงินกว่า 7.5 ล้านบาท 

โครงการ “Future School Transformation Program” มีเป้าหมายด้วยกันอยู่ 3 ข้อ ได้แก่ 

1) เพื่อสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน 3R ส่งเสริมให้เด็กอ่านออกเขียนได้ ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กทุกคนในการต่อยอดการเรียนรู้ในด้านอื่นๆ 

2) เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดทักษะในอนาคต (4C : การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) การคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การทำงานร่วมกัน (Collaboration) การสื่อสาร (Communication) ผ่านกิจกรรมพื้นที่นักสร้างสรรค์ Makerspace และประเมินผลตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือ Starfish Class 

3) เพื่อสนับสนุนผู้นำโรงเรียน (School Leaders) ให้มีสมรรถนะในการบริหารจัดการโรงเรียนตามเป้าหมาย มีการพัฒนาวิชาชีพ และการบริหารอย่างยั่งยืนด้วยทักษะอนาคตในด้านต่างๆ เช่น การคิดเชิงนวัตกรรม การแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ การส่งเสริมการเรียนรู้สมัยใหม่ และการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน จนเกิดเครือข่ายความร่วมมือ และมีเครื่องมือในการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบผ่านการสนับสนุนหลักสูตร “Future School Leader” 

โครงการฯ มีพื้นที่ดำเนินการอยู่ 3 ภูมิภาค 5 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร และอยุธยา) ภาคตะวันตก (กาญจนบุรี) และภาคเหนือ (เชียงใหม่ และเชียงราย) ทั้งในเขตพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่ชายขอบห่างไกลที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ 

ซึ่งมีโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจำนวนทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้ 

1. โรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ จังหวัด กรุงเทพมหานคร
2. โรงเรียนวัดดอนพุดซา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
3. โรงเรียนบ้านกองม่องทะ จังหวัด กาญจนบุรี
4. โรงเรียนวัดปรังกาสี จังหวัด กาญจนบุรี
5. โรงเรียนบ้านห้วยเสือ จังหวัด กาญจนบุรี
6. โรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ จังหวัด กาญจนบุรี
7. โรงเรียนบ้านห้วยเกี๋ยง จังหวัด เชียงใหม่ 
8. โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ ๙ จังหวัด เชียงใหม่ 
9. โรงเรียนบ้านแม่คะ จังหวัด เชียงใหม่ 
10. โรงเรียนบ้านห้วยอื้น จังหวัด เชียงราย 

ทั้ง 10 โรงเรียนจะได้รับ ‘ทุนสนับสนุน’ ซึ่งรูปแบบของทุนมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

1. ผู้อำนวยการโรงเรียนจะได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมหลักสูตร “Future School Leader Program” เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ในรูปแบบ Hybrid เป็นการส่งเสริมให้ผู้นำโรงเรียนได้มีวิสัยทัศน์ จากการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรชั้นนำจากเมืองไทยและต่างประเทศ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาโรงเรียนด้วย “Future School Model” 
2. โรงเรียนจะได้รับการสนับสนุนในรูปแบบสื่อการสอน 3R เพื่อส่งเสริมให้เด็กอ่านออก เขียนได้ และทุนสนับสนุนกิจกรรม Makerspace เพื่อเสริมสร้างทักษะสำหรับอนาคต พร้อมเครื่องมือการประเมินทักษะและสมรรถนะเด็กด้วย Starfish Class 
3. คุณครูจะได้รับการสนับสนุนในรูปแบบของการพัฒนาวิชาชีพ (PD : Professional Development) ด้วยสิทธิพิเศษในการเข้าร่วม Workshop ต่างๆ การ Coaching และการลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือจากทีมโค้ช 

นอกจากการสนับสนุนดังกล่าวแล้ว ยังมีการติดตามประเมินผล และการทำวิจัยจากทีมนักวิจัยในการลงพื้นที่ติดตามและทำงานควบคู่ไปกับ 10 โรงเรียน เพื่อวัดผลลัพธ์และความก้าวหน้าของโครงการในด้านต่างๆ เช่น ด้านแผนพัฒนาคุณภาพโรงเรียนที่มีวิสัยทัศน์ ด้านกลยุทธ์ตาม Future School Leader Model ด้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ครูผู้สอน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียน เป็นต้น 

จะเห็นได้ว่า โครงการ Future School Transformation Program เป็นโครงการที่น่าจับตามองและน่าติดตาม เนื่องจากโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์ในเพิ่มศักยภาพโรงเรียนผ่านนวัตกรรมการศึกษา และเสริมพลังการทำงานให้แก่ผู้ปฏิบัติจริงตั้งแต่คุณครูไปจนถึงระดับผู้บริหารโรงเรียนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยื่นตามเจตนารมณ์ที่ทั้งสององค์กรมุ่งหวังว่า ต้องการให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศต่อไป