“ธนุ” ยืนยันยกร่างเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ชง ก.ค.ศ.เพิ่มทางเลือกรูปแบบการประเมินวิทยฐานะครู

2 ปีที่แล้ว
475 views
โดย Starfish Academy
“ธนุ” ยืนยันยกร่างเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ชง ก.ค.ศ.เพิ่มทางเลือกรูปแบบการประเมินวิทยฐานะครู

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าในการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะการปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ลดขั้นตอนและมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ซึ่งในขณะนี้ กระทรวงศึกษาธิการใช้เกณฑ์การประเมินรูปแบบเดียวกับครูทั้งประเทศ คือ การประเมิน ว PA (Performance Agreement) คือ การประเมินผลการปฏิบัติงานโดยการทำข้อตกลงการปฏิบัติงาน ซึ่ง สพฐ. ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากหลายฝ่าย พบว่าต้องการให้มีการเพิ่มทางเลือกรูปแบบการประเมินวิทยฐานะให้หลากหลายมากขึ้น เพราะโรงเรียนในสังกัด สพฐ. มีบริบทที่แตกต่างกัน ทั้งกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ กลาง และขนาดเล็กรวมไปถึงโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงครู มีความต้องการเลือกใช้รูปแบบการประเมินที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มอายุและความถนัด สอดคล้องกับผู้เรียนที่หลากหลาย และไม่เป็นการสร้างภาระแก่ครูมากเกินไป

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า เมื่อโจทย์จาก รมว.ศึกษาธิการ สพฐ.จึงคิดว่าจะต้องมีรูปแบบการประเมินที่มากกว่าหนึ่งช่องทาง เพื่อให้เป็นไปตามสภาพความเป็นจริง เพราะโรงเรียนสังกัดสพฐ. มีหลายบริบท และอีกส่วนที่เป็นปัจจัยสำคัญคือ ครูมีหลายกลุ่มอายุ ทั้งครูรุ่นใหม่ รุ่นกลาง และครูกลุ่มที่มีประสบการณ์นานอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้การประเมินวิทยฐานะสะท้อนการทำงานของครูและตอบโจทย์การพัฒนาผู้เรียน ก็ควรจะให้มีการประเมินที่หลากหลาย ตามความถนัดและความสนใจเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายเรียนดี มีความสุข ลดภาระครู และบุคลากรทางการศึกษาซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่ สพฐ. ตั้งทีมขึ้นมายกร่างหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะเพื่อเสนอรมว.ศึกษาธิการพิจารณาก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ. ให้ความเห็นชอบโดยก่อนดำเนินการ สพฐ.ได้สอบถามผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียหลายพื้นที่ ซึ่งผู้นำครูและบุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรจะมีช่องทางการประเมินวิทยฐานะที่สอดคล้องกับนโยบาย รมว.ศึกษาธิการ คือ ลดขั้นตอน มุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน โดยมีรูปแบบวิธีการประเมินที่หลากหลายมากกว่าเดิม โดยเน้นให้เป็นไปตามบริบทของพื้นที่ ทั้งโรงเรียนในเมือง โรงเรียนในชนบท โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล บนดอย ภูเขาสูง เกาะแก่ง ซึ่งบางแห่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้อินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึง บางโรงเรียนยังใช้โซลาเซลล์ ซึ่งถ้าให้โรงเรียนที่อยู่ในเมืองประเมินแข่งกับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ก็จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม

“การยกร่างหลักเกณฑ์วิทยฐานะครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการรื้อ หรือยกเลิกเกณฑ์เดิม แต่เป็นการสร้างทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาผู้เรียนที่มีความแตกต่างกัน ทั้งเด็กปกติเด็กพิการผู้มีความสามารถเป็นเลิศเด็กด้อยโอกาส รวมถึงให้การประเมินสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ทั้งในเมืองชนบท พื้นที่สูง เกาะแก่ง ทุรกันดารห่างไกล ฯ ตามนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา อย่างไรก็ตามการยกร่างหลักหลักเกณฑ์ครั้งนี้ไม่ใช่ว่า หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือเกณฑ์ PA (ว 9/2564) ไม่ดี การประเมินตาม ว9 ที่สำนักงานก.ค.ศ. ดำเนินการอยู่ ถือเป็นการประเมินที่ตอบโจทย์เรื่องของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่ดี ดังนั้นเกณฑ์ประเมิน ว9 ยังใช้อยู่และไม่มีการยกเลิก แต่จะเพิ่มโอกาสและทางเลือกการประเมินที่เหมาะสม สามารถพัฒนาผู้เรียนได้ ในรูปแบบที่หลากหลาย มุ่งวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ที่มีบริบทที่แตกต่างกัน และวัดผลการทำงานของครู ตามบริบทของพื้นที่และธรรมชาติของวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนที่ต่างกัน ยืนยันว่าสพฐ.จะไม่ยกเลิก ว9 เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการประเมินที่ดี แต่ สพฐ.จะเพิ่มช่องทางการประเมินวิทยฐานะให้มากขึ้น โดยหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะทุกรูปแบบต้องเชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ตามนโยบายของรมว.ศึกษาธิการ ซึ่ง สพฐ. จะเร่งดำเนินการ เพื่อเสนอให้รมว.ศึกษาธิการเห็นชอบและเสนอคณะกรรมการก.ค.ศ.พิจารณาต่อไป ” ว่าที่ ร้อยตรี ธนุ กล่าว

อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : www.matichon.co.th/education/news_4272326

Share:
|

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

ข่าวที่เปิดอ่านมากที่สุด