นางสาวโชติมณี จินะโต้ง (ครูหญิง) ครูชำนาญการ สอนระดับชั้นอนุบาล 3 และระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนบ้านกองหิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5
จากการที่ได้สัมภาษณ์ครูหญิงถึงการนำนวัตกรรม 3R (ภาษาไทย) ไปใช้นั้น ครูหญิงได้เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาเคยสอนแต่ระดับชั้นประถมศึกษา ไม่เคยสอนระดับชั้นอนุบาลมาก่อนเลย แต่ในปีการศึกษานี้ได้รับหน้าที่เป็นครูประจำชั้นในระดับชั้นอนุบาล 3 ซึ่งก็ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด แต่ปัญหาที่พบเจอคือ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ไม่สามารถบอกพยัญชนะได้เท่าที่ควร นักเรียนจะต้องมีรูปภาพประกอบถึงสามารถบอกชื่อพยัญชนะได้ จึงทำให้ครูหญิงเจอปัญหาในด้านการเรียนภาษาไทยของเด็ก ๆ ที่เป็นการสอนเสริมทักษะให้กับนักเรียนอนุบาลเพื่อต่อยอดไปสู่ชั้นประถมศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ครูหญิงจึงมองหาเครื่องมือหรือนวัตกรรมมาช่วยในการสอนครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาครูหญิงได้มีโอกาสรู้จักกับนวัตกรรม 3R เนื่องจากเคยทำงานร่วมกับสตาร์ฟิชมาก่อน แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้นำนวัตกรรมมาใช้กับนักเรียน จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรใช้นวัตกรรมที่สามารถนำมาพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียน ครูหญิงจึงได้ติดต่อมาที่โค้ชของสตาร์ฟิช เพื่อสอบถามถึงการนำนวัตกรรมไปใช้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำให้เข้าไปศึกษาเรียนรู้วิธีการสอนในคอร์สนวัตกรรม 3R ใน Starfish Labz รวมถึงได้เข้าร่วมรับฟังการอบรมวิธีการใช้นวัตกรรม เมื่อผ่านการอบรมแล้ว จึงได้มีนำมาปรับใช้กับนักเรียนอย่างจริงจังตามแนวทางที่เรียนรู้มา
ครูหญิงเชื่อว่า ถ้านักเรียนมีพื้นฐานการอ่านออกเขียนได้ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลก็จะเป็นพื้นฐานในการเรียนทุกวิชาและเมื่อขึ้นระดับชั้นประถมศึกษาก็สามารถอ่านหนังสือได้ เขียนไทยได้คล่อง เพราะระดับชั้นประถมศึกษาต้องเรียนครบทุกสาระแล้ว ถ้ายังอ่านไม่ออกหรือเขียนไม่ได้ ก็จะเป็นปัญหาในการเรียน และส่งผลต่างๆ ตามมา ครูหญิงจึงได้จัดตารางเรียนโดยใช้เวลาในการเรียนภาษาไทยสัปดาห์ละ 7 ชั่วโมง โดยเริ่มสอนตั้งแต่พยัญชนะเซ็ตที่ 1 มีการใช้ Flashcards เกมต่าง ๆ การสร้างสื่อการสอนที่น่าสนใจ หรือใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน
หลังจากที่ได้ใช้นวัตกรรม 3R ได้ระยะเวลาหนึ่ง จากการประเมินผลนั้น นักเรียนสามารถผ่านกิจกรรมได้ถึง 80% ครูหญิงจึงคิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะนวัตกรรม 3R สามารถพัฒนาผู้เรียนได้จริง แต่ต้องใช้เวลาและต้องใจเย็น ๆ ซึ่งผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นคือ นักเรียนเริ่มสนุกมากขึ้นกับการมาโรงเรียน มีความสุขและอยากเรียนรู้ ทำให้สังเกตได้ว่า เมื่อเด็กมีความรู้ มีความสามารถ จนเกิดเป็นความมั่นใจและสามารถบอกหรือตอบในสิ่งที่ครูสอนได้ นักเรียนจะอยากเรียนรู้มากขึ้น
ครูหญิงได้บอกเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ชื่นชอบในนวัตกรรม 3R คือ มีคู่มือและขั้นตอนการสอนที่ชัดเจน มีแบบฝึกหัดสำเร็จรูปให้แล้ว สะดวกต่อการนำไปใช้ โดยที่ครูไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาแบบฝึกหัดหรือสื่อการสอนอื่น ๆ เลย มีการแบ่งพยัญชนะเป็น 4 เซ็ต ซึ่งเป็นการสอนจากง่ายไปยาก สอนจากสิ่งใกล้ตัวเด็กก่อน ที่สำคัญคือ ถ้าไม่เข้าใจตรงจุดไหนก็สามารถสอบถามโค้ชได้ตลอดเวลา หรือสามารถเข้าไปศึกษา
เพิ่มเติมจากคอร์สใน Starfish Labz ได้ด้วยเช่นกัน แนวการสอนที่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของครูหญิงคือ ให้นักเรียนสร้างความคุ้นเคยกับพยัญชนะ ฝึกจำ ฝึกออกเสียงบ่อย ๆ พยายามให้เด็กทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อฝึกให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ของตนเองได้
สำหรับเป้าหมายของการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม 3R นั้น ในภาคเรียนที่ 2 ครูหญิงวางแผนที่จะเชิญชวนให้ครูในระดับชั้นอนุบาล 2 ได้นำนวัตกรรมไปใช้ด้วย เพื่อฝึกให้น้องอนุบาล 2 ได้รู้จักพยัญชนะก่อน เมื่อขึ้นระดับชั้นอนุบาล 3 ก็เริ่มประสมพยัญชนะกับสระได้เลย เพื่อให้สามารถส่งต่อนักเรียนให้ครูระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในการเพิ่มตัวสะกดในคำต่าง ๆ คิดว่าน่าจะเป็นการสอนที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน เพราะมีการสอนแบบต่อเนื่องตามระดับชั้น ทำให้ในระดับประถมศึกษาเด็กสามารถเขียน อ่านคำหรือประโยคในหนังสือเรียนได้ นอกจากนั้นแล้ว ครูหญิงยังได้นำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ คือ ครูได้สร้างนวัตกรรมการอ่านออก เขียนได้ขึ้นมาใหม่ โดยพัฒนาจากนวัตกรรม 3R และได้ส่งเข้าประกวดผลงานการปฏิบัติเป็นเลิศ ประเภทครูผู้สร้างสื่อนวัตกรรม ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จึงถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของครูหญิงต่อการใช้นวัตกรรม
ครูหญิงได้พูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมว่า สำหรับนวัตกรรม 3R นั้นดีอยู่แล้ว แต่อยากให้เพิ่มเติมในส่วนของแบบฝึกหัด หรือเกมออนไลน์ใน Starfish Labz เพื่อให้ครูที่เข้าไปเรียนคอร์สได้นำไปเป็นแนวทางในการสอนเด็ก และอยากเชิญชวนครูอนุบาล ครูที่สนใจ ผู้ปกครอง หรือบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านได้นำนวัตรกรรม 3R ไปปรับใช้ในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของเด็ก ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มองว่าสามารถนำไปใช้ได้ทันที แค่ครูเปิดใจเรียนรู้ และนำไปใช้จริง เชื่อว่าครูจะหลงรักนวัตกรรมนี้แน่นอน
จากที่ได้พูดคุยสัมภาษณ์ครูหญิงนั้น ทำให้ผู้เขียนมองเห็นถึงความพยายามของครูในการพัฒนาผู้เรียน ถึงแม้จะไม่ใช่ครูที่จบเอกปฐมวัยโดยตรง แต่ครูมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ ได้เห็นแววตาแห่งความพยายาม มุ่งมั่นอยากให้นักเรียนของตนเองอ่านออก เขียนได้ และมีความสุขกับการเรียน ถึงแม้จะต้องใช้เวลาและต้องสร้างโอกาสในการเรียนรู้ แต่เมื่อเห็นนักเรียนตัวเล็ก ๆ เริ่มอ่านออก เริ่มเขียนได้ ก็สร้างความสุขและเพิ่มความหวังให้ครูในการพัฒนานวัตกรรม และพร้อมส่งต่อความสำเร็จให้ครูท่านอื่นได้มีโอกาสใช้นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเด็กไปด้วยกัน
บทความใกล้เคียง
แชร์ไอเดียการสอนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ง่ายๆ สไตล์โรงเรียนบ้านปลาดาว
Active Teacher ตอน Portfolio ตัวช่วยครูค้นหาศักยภาพนักเรียน
ส่อง 5 บริษัทและเครื่องมือเทคโนโลยีทางการศึกษา พลิกโฉมการสอน จากห้องเรียนธรรมดาสู่ Hybrid
Related Courses
ออกแบบชุมชนปลอดภัย เสริมเมืองให้ยั่งยืนและน่าอยู่ด้วย Makerspace
ผู้เรียนในช่วงอายุ 13-18 ปีสามารถใช้กระบวนการ STEAM Design Process ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอย่างมีค ...
ออกแบบชุมชนปลอดภัย เสริมเมืองให้ยั่งยืนและน่าอยู่ด้วย Makerspace
เปิดโลกการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย Google Lens
Google Lens เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน ผ่านการใช้กล้องสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ผู้ ...
เปิดโลกการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย Google Lens
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Related Videos
พื้นที่แห่งการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21
Starfish Country Home School Foundation [ENG]