5 เทคโนโลยีการศึกษา ช่วยลูกฝึกภาษาอังกฤษ

การฝึกภาษาที่สามยังคงถือเป็นสิ่งสำคัญเสมอมา และหนึ่งในภาษาที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญและยังช่วยให้เด็กๆ ต่อยอดสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมได้อย่างมากมายก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมอง App แปลภาษา ฝึกภาษา ฝึกฟัง ฝึกพูด ดีๆ สักแอปหนึ่งสำหรับลูก วันนี้ Starfish Labz คัดมาให้แล้วค่ะ การเรียนภาษาที่สามไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปด้วยเทคโนโลยีการศึกษาที่ใช่ แต่จะมีแอปไหนที่น่าสนใจ น่าใช้งานจริงๆ กันบ้าง มาดูกันเลย
5 เทคโนโลยีการศึกษา ช่วยลูกฝึกภาษาอังกฤษ
1.Duolingo
เปิดลิสต์กันมาที่สุดยอดAppแรกอย่าง Duolingo ที่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คน คงรู้จักกันดีอยู่แล้วเพราะถือเป็นหนึ่งในแอปเรียนภาษายอดนิยม ขวัญใจเด็กๆ Duolingo คือแอปเรียนรู้ภาษาระดับโลกในรูปแบบของเกม (Gamification) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สนุกมากมาย ช่วยให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องแสนสนุก (ราวกับว่าไม่ได้กำลังเรียนอะไรอยู่จริงๆ) แต่แค่กำลังเล่นเกมเฉยๆ แต่เป็นเกมที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบมาตามมาตรฐานการเรียนรู้ ฝึกให้เด็กๆ ทำจริง เรียนรู้จริง บทเรียนเป็นไปตามระดับของแต่ละผู้เรียน
จุดเด่นของ Duolingo คือวิธีการสอนที่ไม่เหมือนใคร อาทิ การสอนด้วยประโยคแปลกๆ ประหลาดๆ เป็นความหมายตลกๆ เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและจดจำ รวมถึงฟีเจอร์การเรียนรู้แบบเกมมากมายที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ อยากเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
2. Droplets
Droplets คือเวอร์ชันสำหรับเด็กของแอปเรียนภาษายอดนิยมอย่าง Drops สำหรับ iOS และ Android พัฒนาหน้าตาการใช้งานที่สวยงามและการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดจากหนึ่งในแอปการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดแอปหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตัวแอปเน้นไปที่การเรียนรู้ด้วยภาพ เนื่องจาก เหล่าคำศัพท์มาพร้อมกับภาพประกอบสีสันสวยงาม เด็กๆ สามารถกดฟังเสียงการออกเสียงโดยเจ้าของภาษาเพื่อฝึกพูดได้อย่างถูกต้อง มีการใช้งานคล้ายๆ แอพ Drops แต่เป็นสำหรับเด็กๆ ในเวอร์ชันย่อลงมาและมีหน้าตาการใช้งานที่น่ารักมากขึ้น ดึงดูดความสนใจในการเรียนรู้ ภายในแอปมีให้เรียนมากกว่า 35 ภาษา เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานง่ายๆ เน้นการค่อยๆ เรียนรู้อย่างช้าๆ และผ่อนคลายคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังมองหาแอปฯ ดีๆ สำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ที่อาจจะต้องเน้นแค่ภาพเป็นหลักก่อน ต้องลอง Droplets เลยค่ะ
3. Pili Pop
Pili Pop คือเทคโนโลยีการศึกษาภาษาต่างประเทศในรูปแบบซีรีส์แอปพลิเคชันสำหรับเด็กๆ อายุ 5 ถึง 10 ปี ตัวแอปฯ มี 3 แอปแยกกันสำหรับแต่ละในภาษา ได้แก่ Pili Pop English สำหรับภาษาอังกฤษ Pili Pop Français สำหรับภาษาฝรั่งเศส และ Pili Pop Español สำหรับภาษาสเปน Pili Pop เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการออกเสียงซึ่งช่วยเสริมการเรียนรู้ในด้านการพูด ภายในแอปฯ ประกอบด้วยกิจกรรมบทเรียนการสนทนาที่เด็กๆ ต้องออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้องเพื่อรับรางวัลและผ่านไปยังบทเรียนใหม่ๆ ในรูปแบบเกม การเรียนรู้ออกแบบภายใต้ธีมการเรียนรู้ที่น่าสนุก เหมาะสมสำหรับเด็กๆ เช่น โจรสลัด หุ่นยนต์ มนุษย์ต่างดาว และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแอปการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ ที่ต้องลองเลยทีเดียวค่ะ
4. LingoDeer
LingoDeer คือแอปการศึกษาที่สอนภาษาต่างๆ หลากหลายภาษาผ่านการใช้เกมที่แสนสนุก, แบบ Interactive และกิจกรรมต่างๆ แอปพลิเคชันจะสอนให้เด็กๆ ฝึกสร้างประโยคด้วยคำพูดของตนเองผ่านบทเรียนที่เป็นระบบ เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่สำคัญตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง และพัฒนาทักษะการฟังและการออกเสียงด้วยเสียงนำจากเจ้าของภาษา พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนุก ข้อมูลควรรู้ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการใช้ภาษา แอปฯ มีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคนทั่วโลก หน้าตาการใช้งานน่ารัก สีสันสดใส เหมาะกับเด็กๆ ทุกวัยเลยทีเดียวค่ะ
5. Jojo’s World
Jojo’s World คือเทคโนโลยีการศึกษา iPhone/iPad พัฒนาโดย Early Lingo ในรูปแบบการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบ Total Immersion หรือการเป็นหนึ่งเดียวกับภาษาและบริบทของภาษาไปเลย โดยไม่มีการแปลให้ภายในแอป เด็กๆ เรียนรู้ความหมายผ่านภาพการ์ตูนเคลื่อนไหวและเสียง มีการผสมผสานการเรียนรู้แบบเกมและเรื่องราวที่สนุก ชวนให้เด็กๆ ท่องไปในโลกของตัวละครที่ชื่อว่า Jojo เพื่อค้นพบคำศัพท์ใหม่ ๆ และรับรางวัล เมื่อสิ้นสุดแต่ละระดับ เด็กๆ ต้องทำแบบทดสอบคำศัพท์ใหม่เพื่อท่องสู่ระดับถัดไป ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการศึกษาแสนแปลกใหม่ที่น่าทดลองใช้งานเลยทีเดียวค่ะ
เคล็ดไม่ลับเพิ่มเติม สำหรับคุณพ่อคุณแม่
แอปฝึกภาษาเหล่านี้ถือเป็นแอปที่เด็กๆ สามารถใช้งานและเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ การชวนเด็กๆ มาเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีการศึกษาในรูปแบบนี้ นอกจากช่วยมอบอิสระการเรียนรู้ให้กับเขาแล้ว ยังช่วยลดความเหนื่อยของคุณพ่อคุณแม่เองด้วยในการสอน อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการให้เด็กๆ เรียนรู้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ยังคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอนควบคู่ไปได้ คอยถามว่าวันนี้เรียนหรือยัง เรียนไปกี่บทเรียนแล้ว รวมถึงเป็นผู้คอยให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับเด็กๆ เทคนิคนี้คือ Beyond Schooling หรือการสร้างการเรียนรู้ที่มากไปกว่าแค่ที่โรงเรียนให้กับเด็กๆ ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ที่บ้าน นอกจากคุณครูที่โรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ก็ยังสามารถเป็นผู้คอยสอน เป็นเสมือนคุณครูอีกคนหนึ่งนั่นเองค่ะ
และนี่ก็คือ 5 เทคโนโลยีการศึกษาสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ ที่วันนี้ Starfish Labz นำมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน แต่ละแอปเรียกได้ว่าน่าใช้งาน น่าสนุกกันทั้งหมดเลย คุณพ่อคุณแม่ที่ถูกใจแอปไหน อย่าลืมลองเอาไปนำเสนอลูกๆ กันนะคะ
อ้างอิง:
Related Courses
Classroom language เทคนิคการใช้ภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนรู้ฉบับนำไปใช้ได้จริง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เกร็ง ไม่มั่นใจ เวลาที่ต้องพูดภาษาอังกฤษคอร์สนี้จะมาชวนทุกคนปลดล๊อคความกลัวปรับ Mindset พร้อมสร้างคว ...



Classroom language เทคนิคการใช้ภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนรู้ฉบับนำไปใช้ได้จริง
ต้องใช้ 100 เหรียญ
ฝึกเด็กเล็กเอาตัวรอดจากภัยในชีวิตประจำวัน
ภัยในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กๆ ของเรา ดังนั้นผู้ปกครองหรือคุณครูควรสอนตั้งแต่เด็กเล็กๆ เพื่อให้เด็กมี ...



Learning English เทคนิคฝึกฟัง และพูดภาษาอังกฤษที่ใครก็ทำได้
วันนี้ Starfish Labz มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยทำให้การเรียนรู้เรื่อง การฟัง และการพูดภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เพราะห ...



Learning English เทคนิคฝึกฟัง และพูดภาษาอังกฤษที่ใครก็ทำได้
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เจาะลึกสอบ TCAS
การสอบ TCAS ที่ควรรู้ในแต่ละปีเริ่มเตรียมตัวสอบกันด้วยประเด็นอะไร และสอบอะไร ลองมาดูกันว่ามีประเด็นไหนเกี่ยวกับการสอบ ...



Related Videos


แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA


ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรให้ครบ 8 องค์ประกอบ วPA


10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO

