4 ข้อสงสัย ชวนผู้บริหารสถานศึกษา และครูเข้าใจกฎหมาย PDPA ใช้คุ้มครองสิทธิเด็กในโรงเรียน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 กฎหมาย PDPA (Personal Data Protection Act) คือ พ.ร.บคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ให้ถูกจัดเก็บหรือนำไปใช้โดยไม่ได้แจ้งให้เราทราบ และ/หรือได้รับความยินยอมจากเราในฐานะเจ้าของข้อมูลก่อน
เพราะในปัจจุบันบริษัทต่างๆ หรือนักการตลาดอาจได้รับการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทั่วไปของเรา (Personal Data) ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมลส่วนตัว ที่อยู่ปัจจุบัน เลขบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง หรือ ข้อมูลบนอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ตที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น Username / Password ต่างๆ ซึ่งนอกจากข้อมูลส่วนตัวทั่วไปแล้ว ยังมีอีกส่วนหนึ่ง ที่เรียกว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ที่อาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลทั้งในแง่ของการทำงาน สังคม และความเป็นอยู่ ซึ่งนำไปสู่การเลือกปฏิบัติได้ ได้แก่ เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในศาสนา หรือพฤติกรรมทางเพศ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากองค์กรได้เก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ โดยไม่ได้รับความยินยอม ก็อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ ได้
ซึ่งการเก็บข้อมูลเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งข้อมูลส่วนตัวทั่วไป หรือข้อมูลส่วนที่อ่อนไหว ย่อมมีความเกี่ยวกับบุคลากรในสถานศึกษา เพราะสถานศึกษาจะต้องเก็บข้อมูลของนักเรียนเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน หรือใช้ในกรณีอื่นๆ ตามที่ผู้อำนวยการเห็นสมควร แต่การนำข้อมูลของนักเรียนไปใช้นั้น ผู้บริหารและคุณครูจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้างที่เป็นหลักสำคัญ
- ข้อมูลทางศาสนา ยังคงเป็นข้อมูลที่โรงเรียนเก็บจากนักเรียน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากไม่มีเหตุผลที่สมควรมารองรับก็ไม่ควรเก็บ เช่น เพื่อการสร้างห้องละหมาด และเตรียมอาหารเฉพาะให้กับนักเรียนชาวมุสลิม เป็นต้น
- การเมืองและการชุมนุมในปัจจุบันกำลังเป็นประเด็น โรงเรียนห้ามเก็บข้อมูลความคิดเห็นทางการเมือง หรือพฤติกรรมการออกไปชุมนมของเด็กๆ แบบระบุตัวตนได้เป็นอันขาด
- การเก็บข้อมูลชีวภาพ รูปร่างหน้าตาของเด็กผ่านกล้องวงจรปิด มีเหตุผลรองรับที่เพียงพอและอ้างอิงฐานการประมวลผลตามกฎหมายที่ถูกต้องหรือไม่
เพราะประเด็นสำคัญของการเก็บข้อมูลอ่อนไหวก็คือ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล จะต้องบอกให้ได้ว่าเอาไปทำอะไร และไม่สามารถนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในโรงเรียน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บข้อมูลส่วนใหญ่มีฐานะเป็น “ผู้เยาว์” การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะมีความซับซ้อน กรณีของเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบต้องให้ผู้ปกครองให้ความยินยอม ส่วนเด็กที่มีอายุ 10-19 ปี (ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) จะต้องได้รับความยินยอมจากทั้งตัวนักเรียนเองและผู้ปกครอง
4 ข้อสงสัย ชวนผู้บริหารสถานศึกษาและครู
เข้าใจกฎหมาย PDPA ที่ใช้คุ้มครองสิทธิเด็กในโรงเรียน
ประเด็นที่ 1 : หากคุณครูจะต้องทำคลิปเพื่อขอเลื่อน/ขอมีวิทยฐานะ จะผิดกฎหมาย PDPA หรือไม่
ตอบ : ไม่ผิด เพราะถ้านำคลิปหรือรูปที่ถ่ายติด ไปโพสในโซเชียลมีเดียโดยบุคคลอื่นไม่ยินยอม สามารถโพสได้ หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ไม่ใช้ในการแสวงหากำไรทางการค้า และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อแนะนำที่ครูควรทำ คือ ในการทำวิดีทัศน์ในห้องเรียนของน่าจะมี consent form หรือ เอกสารการขออนุญาตให้เผยแพร่จาก ให้ นร. และผู้ปกครอง ทราบและยินยอม ในนั้นจะมีรายละเอียดการทำวิดีทัศน์และวัตถุประสงค์ของการถ่ายวิดีทัศน์ เหมือนตอนเราทำงานวิจัยกับ นร. สำหรับกรณีทั่วไป
ประเด็นที่ 2 : หากผู้อำนวยการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่โรงเรียน แล้วไม่มีป้ายแจ้งเตือนผู้ปกครอง หรือนักเรียน จะผิดกฎหมาย PDPA หรือไม่
ตอบ : ไม่ผิด เพราะการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่โรงเรียน หากใช้เพื่อป้องกันอาชญกรรม หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่นักเรียน และรักษาความปลอดภัยของนักเรียน
ประเด็นที่ 3 : หากคุณครูกำลังถ่ายรูปตนเองแล้ว ถ่ายติดนักเรียน โดยที่นักเรียนไม่ได้ยินยอม และไม่รู้ตัวผิดกฎหมายหรือไม่
ตอบ : ไม่ผิด กรณีถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปโดยติดบุคคลอื่นโดยผู้ถ่ายไม่ได้เจตนา และการถ่ายรูป ถ่ายคลิปดังกล่าว ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกถ่าย สามารถทำได้ หากเป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว
ประเด็นที่ 4 : หากคุณครูจะต้องถ่ายรูปนักเรียนเพื่อเก็บข้อมูลหลักฐานการในพัฒนานักเรียน จะผิดกฎหมาย และต้องแจ้งให้นักเรียนทราบคือไม่
ตอบ : ไม่ผิดกฏหมาย แต่มีความจำเป็นต้องแจ้งให้นักเรียนและผู้ปกครองรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะในกรณีที่เก็บข้อมูลนักเรียน อาจจะเข้าข่ายการใช้ในลักษณะเพื่อการค้นคว้าวิจัยทางสถิติ
ทั้งนี้ นี่เป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณครูและผู้บริหารต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถหาอ่านได้จากหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง เช่น กระทรวงดิจิทัลฯ หรือสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้เลยค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
- PDPA คนไทยต้องรู้ คุณครูต้องสอน สถานศึกษาต้องระวัง | PDPA Thailand bit.ly/3NSv2X5
- PDPA คืออะไร? – สรุป PDPA เกี่ยวกับธุรกิจที่คุณควรรู้! ฉบับเข้าใจง่าย | Easy PDPA bit.ly/3aCLQ63
Related Courses
วัยทีนยุคใหม่ จัดการเวลายังไงให้สมดุล
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจ ทั้งโซเชียลมีเดีย การเรียน กิจกรรมต่าง ๆ และการใช้ชีวิตส่วนตัว การจัดการเวลาจึงเป็นทั ...
Micro Learning - แหล่งเครื่องมือช่วยครูจัดการชั้นเรียน
Starfish แหล่งเครื่องมือช่วยครูในจัดการชั้นเรียนที่หลากหลาย เช่น Starfish Labz, Starfish Class แบบเว็บไซต์ และแ ...
Micro Learning - แหล่งเครื่องมือช่วยครูจัดการชั้นเรียน
การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง Immersive Technology ในห้องเรียน
AR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้นและยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มาก ...
การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง Immersive Technology ในห้องเรียน
ต้องใช้ 100 เหรียญ
Google Docs เพื่อนคู่คิดในการทำงานอย่างมืออาชีพ
Google Docs เพื่อนคู่คิด สอนการสร้าง แก้ไข และทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพ ใช้ง่าย คล่องตัว ผลงานโดดเด่น พร้อมใช้จริง
Google Docs เพื่อนคู่คิดในการทำงานอย่างมืออาชีพ
Related Videos
10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO
น้องยินดี: เด็กอัจฉริยะ คิดค้นการใช้มอส กำจัด PM2.5
การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated Learning Management)