พ่อแม่ได้อะไร จากปรากฏการณ์ไลฟ์ของ 2 พส.
ในวงการไลฟ์วินาทีนี้ คงไม่มีใครปังปุริเย่ ไปกว่า 2 พส. ที่ไม่ได้แปลว่าเพื่อนสาวหรือพี่สาว แต่หมายถึงพระสงฆ์ 2 รูป นั่นคือ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณโณ โดยเฉพาะเมื่อครั้ง พส.ทั้งสองรูปไลฟ์ร่วมกัน จนมียอดวิวถึง 5 ล้านวิว นำไปสู่การรวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายของประชาชน และแอดมินเพจต่างๆ ยิ่งทำให้กระแสการไลฟ์ของ พส.กลายเป็นทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทั่วบ้านทั่วเมือง
ที่สำคัญปรากฏการณ์ดังกล่าว ยังเป็นที่ถูกอกถูกใจวัยรุ่น ทำให้เด็กๆ หันมาสนใจฟังธรรมะกันมากขึ้น แม้จะมีบางหน่วยงาน หรือบางกลุ่มคนออกมาแสดงความวิตกกังวลถึงความไม่เหมาะสม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไลฟ์ที่เกิดขึ้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการศึกษาธรรมะแบบเดิมๆ ให้กลายมาเป็นธรรมะที่เข้าถึงง่าย ตั้งคำถามได้ และอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าเดิม
สำหรับคนเป็นพ่อแม่ ปรากฏการณ์นี้อาจไม่ได้เป็นแค่กระแสที่ผ่านมา และผ่านเลยไป แต่สามารถนำมาศึกษาพฤติกรรม และความสนใจของเด็กยุคใหม่ว่า เพราะอะไร 2 พส. จึงดึงดูดใจวัยรุ่นยุคใหม่ได้ และพ่อแม่จะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างลูกวัยรุ่นได้อย่างไรบ้าง
เกาะติดเทรนด์ เป็นเหมือนเพื่อน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ไลฟ์ของพส. เป็นที่พูดถึงมากก็คือ การเลือกใช้คำศัพท์ที่กำลังนิยม เช่น พส. ที่มักใช้ในกลุ่ม LGBT ในความหมายว่าเพื่อนสาวหรือพี่สาว แต่พระมหาไพรวัลย์ ก็นำมาใช้ ในความหมายว่า พระสงฆ์ เรียกความสนใจจากเด็กยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี คำว่า สภาพ อรุ่มเจ๊าะ หรือ ต๊าช ทำเอาคนวัยพ่อแม่ต้องเสริชกูเกิ้ลหาความหมายกันจ้าละหวั่น
จะเห็นว่าการเลือกใช้ศัพท์แสงที่กำลังอยู่ในกระแสและเป็นศัพท์ที่เด็กวัยรุ่นชอบใช้ ทำให้พส. สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่เรียนรู้ได้จากปรากฏการณ์นี้ก็คือ ช่องว่างระหว่างพ่อแม่และลูกอาจลดลงได้ เมื่อพ่อแม่ตามกระแสของเด็กๆ ให้ทัน อาจไม่จำเป็นต้องทุกเรื่อง เพียงแค่การใช้คำศัพท์สแลงไม่กี่คำ ทำตัวให้สนุก ลดตัวตนของความเป็นพ่อแม่ลงบ้าง สนุกกับลูกได้ พูดเล่นกับลูกได้ ก็น่าจะช่วยทำให้เด็กๆ รู้สึกว่า เราเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งความรู้สึกนี้เอง จะทำให้ลูกวัยรุ่นเปิดใจ และรับฟังพ่อแม่มากขึ้น เหมือนกับที่พส.ได้พิสูจน์ให้เราเห็นมาแล้ว
ทำเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ใช้เหตุผล
เด็กๆ ในยุคนี้เติบโตขึ้นมาในโลกของข้อมูลข่าวสาร อะไรที่อยากรู้ ก็ค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว จึงไม่แปลกที่เด็กสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ซื้อความเชื่อแบบเดิมๆ ที่ไม่มีเหตุผลหรือหลักวิทยาศาสตร์ยอมรับอีกต่อไป
สิ่งที่พส. ทำให้พ่อแม่อย่างเราๆ ได้เรียนรู้ก็คือ ท่านทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ ได้กล่าวไว้ว่า “พระไตรปิฎกต้องมีค่ามากกว่าเป็นอาหารปลวก หลายวัดล็อกกุญแจลืม จนบางทีกุญแจหาย เปิดอีกที อ้าว ปลวกกินไปแล้ว เหมือนกับมีธรรมะที่ดีมาก อยากจะสื่อกับคนแต่ไม่มีคนฟังจะไปสื่อสารกับใคร”
เช่นเดียวกัน พ่อแม่ที่อยากสอน อยากพูดคุยกับลูก หากมัวแต่พูดเรื่องยากๆ จับต้องไม่ได้ หรือพยายามฝังหัวลูกให้มีความเชื่อแบบใดแบบหนึ่ง โดยไม่อธิบายเหตุผล ก็มีแนวโน้มว่าจะถูกเด็กๆ ต่อต้าน ปฏิเสธ การสอนหรือพูดคุยกับเด็กยุคใหม่ จึงต้องมีวิธีพูดที่เหมาะสม อธิบายให้สั้น กระชับ ตรงประเด็น ที่สำคัญต้องมีเหตุผลรองรับ เมื่อเด็กๆ ถามว่าทำไม เพราะอะไร ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาต่อต้าน ความช่างสงสัยอาจเป็นนิสัยของเด็กส่วนใหญ่ในเจนเนอเรชั่นนี้ พ่อแม่จึงควรปรับวิธีการสื่อสารกับลูกให้เหมาะสม
ซึ่งการไลฟ์ของ พส. เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำสิ่งที่มีคุณค่าแต่อาจจะเข้าใจยากไปสักหน่อย อย่างพระไตรปิฏก มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับยุคสมัย สอดแทรกสาระไว้ภายใต้ความสนุกและเสียงหัวเราะ เพราะการสอนหรือให้ความรู้นั้นไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดเสมอไป
ความเคารพเกิดจากความเท่าเทียม
บรรยากาศการไลฟ์ของพส. ถึงแม้จะเป็นการฟังธรรมะ แต่ผู้ชมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเหินห่าง หรือรู้สึกว่าผู้เทศนาธรรมอยู่เหนือกว่าผู้ฟัง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบการฟังธรรม หรือสนทนาธรรมในรูปแบบเดิมๆ ความเป็นกันเองของพส. แม้บางครั้งจะมีบางคอมเมนต์ ซึ่งเป็นส่วนน้อย ที่เล่นเกินเลยไปบ้าง พส.ก็จะปรามเบาๆ พอกรุบกริบ แต่ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสิ่งนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในการฟังธรรมใดๆ ที่ผู้ฟังจะโต้ตอบกับพระสงฆ์ได้อย่างเรียลไทม์และเป็นกันเอง
การวางตัวอย่างเป็นกันเองกับพุทธศาสนิกชนทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หญิง ชาย LGBTQ นี่เอง ที่ทำให้ไลฟ์ของพส. ได้รับความนิยม และถูกใจคนรุ่นใหม่อย่างมาก และยังเป็นข้อพิสูจน์ว่า ผู้ใหญ่ หรือกระทั่งพระสงฆ์เอง ไม่จำเป็นต้องวางมาดเข่งขรึม ทำตนเหนือกว่าเพื่อให้ได้รับความเคารพ เพราะความเคารพที่แท้จริงเกิดขึ้นได้จากการให้เกียรติซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานความเป็น คนเท่ากัน
หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกรับฟัง การวางตัวมีอำนาจเหนือกว่า อาจทำให้เด็กๆ ฟังเพราะความกลัว แต่ไม่ได้เชื่อจากใจจริงๆ และความเคารพที่เกิดจากความกลัวนั้นย่อมไม่ใช่ความเคารพที่แท้จริง ในทางกลับกัน วางตัวธรรมดา ผิดพลาดได้ ขอโทษเป็น ยอมรับฟังความคิดเห็น พร้อมปรับปรุงพัฒนา อาจทำให้เข้าถึงใจของลูกได้ดีกว่า ดั่งที่ พส. ได้ทำให้เราเห็นมาแล้ว
ถึงวินาทีที่เขียนบทความนี้ กระแสของพส. ก็ยังคงจึ้งอย่างต่อเนื่อง แม้บางคนจะยังสงสัยถึงความเหมาะสม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พส. ได้สร้างปรากฏการณ์ที่นำไปสู่การคิด วิเคราะห์ เปิดพื้นที่ให้มีการถกเถียงเรื่องของพระพุทธศาสนาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และยังนำมาถอดบทเรียนเพื่อให้พ่อแม่นำไปประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงดูลูกได้ แล้วอย่างนี้ไลฟ์ของพส. ไม่มีประโยชน์ตรงไหนเอาปากกามาวง!
Related Courses
ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)
การตัดสินใจที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ถ้าหากได้รับการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจตั้งแต่วัยรุ่น ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
หากคุณเป็นคนชอบวาดรูป ชอบการขีดเขียน หรือการจดบันทึก อยากลองทำ Visual Note แต่ไม่รู้จะสื่อสารออกมาอย่างไรดี คอร์สเ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
ต้องใช้ 100 เหรียญ
การพัฒนาทักษะการอ่าน
หนังสือเปรียบเสมือนคลัง ที่รวบรวมเรื่องราวความรู้ต่างๆ มากมาย การพัฒนาทักษะและส่งเสริมให้เด็กรักการอ่านจึงมีความสำคัญเป็น ...
How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์
ทุกวันนี้การใช้งานบนโลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับดาบสองคม ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าจะเลือกข้อมูลด้านไหน ...