หยุดเหนื่อยใจเรื่องลูกไม่ฟัง กับเทคนิคสร้างขอบเขต ที่ลูกเข้าใจและยอมรับ

พัฒนาการเด็กเป็นหัวข้อหลักที่เชื่อมโยงกับความท้าทายในการเลี้ยงดูและสอนเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการที่เด็กไม่ฟัง และผู้ใหญ่จะสร้างขอบเขตอย่างไร การทำความเข้าใจพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทั้งผู้ปกครองและคุณครูในการนำเทคนิคและหลักการต่าง ๆ ไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กที่กล่าวถึงในแหล่งข้อมูล ได้แก่
1. พัฒนาการสมอง
สมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ซึ่งอยู่ที่บริเวณหน้าผาก เป็นส่วนที่ควบคุมพฤติกรรม การใช้เหตุผล การยับยั้งชั่งใจ และการตัดสินใจ และจะสมบูรณ์เต็มที่เมื่ออายุประมาณ 25 ปี
สมองส่วนอารมณ์ (Emotional Brain) โดยเฉพาะในเด็กเล็ก (0-6 ปี) จะพัฒนาเร็วกว่า ทำให้เด็กเล็กมักจะมีอารมณ์มาเต็ม
ด้วยเหตุนี้ เด็กเล็กจึงมีสมองส่วนหน้ายังพัฒนาไม่เต็มที่ และต้องการให้ผู้ใหญ่ "ยืม" สมองส่วนหน้าของเราเพื่อช่วยในการควบคุมตนเองและเรียนรู้ การทำความเข้าใจพัฒนาการนี้ช่วยให้ผู้ใหญ่ไม่คาดหวังให้เด็กมีเหตุผลหรือยับยั้งชั่งใจได้เหมือนผู้ใหญ่ และเข้าใจว่าการที่เด็กเล็กฟังยากเป็นเรื่องปกติ
2. ทฤษฎีความผูกพัน (Attachment Theory)
นำเสนอโดย John Bowlby ทฤษฎีนี้ชี้ว่าสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ทำหน้าที่เป็นฐานที่ปลอดภัย มั่นคง (Safe and Secure Base) ให้กับเด็ก เมื่อผู้ใหญ่ (ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลหลัก) ตอบสนองในเชิงบวก เด็กจะรู้สึกมั่นคง อบอุ่น ไว้ใจ และกล้าที่จะออกไปสำรวจโลกภายนอก
ความรู้สึกปลอดภัยที่ได้รับตั้งแต่เด็กเล็กเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความไว้เนื้อเชื่อใจ การปรับอารมณ์ตนเองได้ดีขึ้น และความพร้อมที่จะรับฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่สอน คุณครูที่สร้างสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้นักเรียนรู้สึกปลอดภัย สมองก็จะเปิด และพร้อมรับฟังครูมากขึ้น
หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องคือ เชื่อมใจก่อนสอน (Connecting Before Correcting) ที่เสนอโดย ดร.Daniel Siegel หมายถึงการสร้างความรู้สึกปลอดภัยและความสัมพันธ์ที่ดีก่อนที่จะสอนหรือแก้ไขพฤติกรรม
3. พัฒนาการด้านการควบคุมตนเองและการจัดการอารมณ์
การตั้งขอบเขต กฎ หรือกติกา ไม่ใช่การควบคุมบังคับแต่เป็น ของขวัญ ที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้การควบคุมตนเอง
ขอบเขตช่วยให้เด็กรู้จักตัวเอง ควบคุมตัวเอง และรับมือกับอารมณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่การมี Self-Esteem และความมั่นใจในตนเองที่เพิ่มขึ้น
ในแต่ละช่วงวัย เด็กจะมีความสามารถในการรับฟัง ทำตาม และเข้าใจเหตุผลแตกต่างกันไป ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการสื่อสารและการตั้งขอบเขตที่แตกต่างกันและเหมาะสมกับวัย
4. การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการเป็นแบบอย่าง
เด็กเรียนรู้การควบคุมตนเอง และการจัดการอารมณ์ผ่านประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่คอยให้เด็ก ๆ เรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ (Imitation) และเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของผู้ใหญ่
ดังนั้น การที่ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดีในพฤติกรรมที่คาดหวังจากเด็กจึงสำคัญมาก เช่น การที่ผู้ใหญ่จัดการอารมณ์ของตนเองเมื่อหงุดหงิด
โดยสรุป ทั้งผู้ปกครองและคุณครูมีบทบาทสำคัญในการนำพา และสนับสนุนการเติบโตของเด็ก การทำความเข้าใจพัฒนาการเด็ก การสร้างความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และการใช้เทคนิคการตั้งขอบเขตเชิงบวก เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำงานหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก นำความรู้ไปปรับใช้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ
Related Courses
สอนคุณธรรมให้ลูก พ่อแม่ก็ทำได้
คุณธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจ นำไปสู่การกระทำที่ดีและถูกต้อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างให้เด็กพร้อมที่จะเผชิญโลก และสังคมปัจจุ ...



การดูแลสุขภาพใจเด็กประถมศึกษา
ในคอร์สนี้เป็นการดูแลสุขภาพใจของเด็ก เพราะการมีสุขภาพใจที่ดีนั้นส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้อารมณ์ดี สามารถจัดการภาวะอาร ...



การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้



คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...



คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Related Videos


108 ปัญหาพ่อแม่ และลูกวัยรุ่น


ปรับพฤติกรรมอย่างไร เมื่อลูกฉันกลายเป็นเด็กเกเร


แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต

