“การสื่อสารกับเด็กในภาวะสงคราม” จำเป็นจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความเข้าใจเป็นพิเศษ เพราะเด็กมักไม่เข้าใจสถานการณ์ที่ซับซ้อน และอาจรู้สึกกลัวหรือสับสนได้ง่าย
เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับเด็ก ในขณะเดียวกันก็สามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะสมกับวัย การรักษาความเป็นปกติในชีวิตประจำวันและการแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่คือ “ที่พึ่ง” ที่เชื่อถือได้ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลของเด็กได้มาก
หากในสถานการณ์นั้นต้องการความช่วยเหลือเฉพาะทางอย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก
10 เทคนิคการตอบคำถามเมื่อเด็กอยู่ในภาวะสงคราม
1. ฟังอย่างตั้งใจและให้ความสำคัญ
สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กได้แสดงความรู้สึกและความกังวล ใช้ภาษากายที่อบอุ่น เช่น การนั่งในระดับสายตาเดียวกัน การสบตา และการแสดงออกที่ใส่ใจ
2. ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัย
ปรับระดับคำศัพท์และความซับซ้อนของข้อมูลให้เหมาะกับการพัฒนาทางปัญญาของเด็ก และหลีกเลี่ยงคำศัพท์ที่น่ากลัว หรือมีรายละเอียดที่รุนแรงเกินไป
3. ตอบตามที่เด็กถาม ไม่เกินจำเป็น
ให้ข้อมูลตามปริมาณที่เด็กต้องการ ไม่ควรให้ข้อมูลมากเกินไปจนทำให้เด็กรู้สึกท่วมท้น เริ่มจากการถามกลับว่า "หนูอยากรู้อะไรเป็นพิเศษ?"
4. ยอมรับความรู้สึกของเด็ก
อธิบายว่าความรู้สึกกลัว กังวล หรือสับสนของเด็กเป็นเรื่องปกติ ใช้คำพูดเช่น "ป้าเข้าใจว่าหนูรู้สึกกลัว นั่นเป็นเรื่องธรรมดามาก"
5. เน้นความปลอดภัยในปัจจุบัน
มุ่งเน้นสิ่งที่ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยในขณะนี้ เช่น การมีผู้ใหญ่คอยดูแล สถานที่ที่ปลอดภัย และแผนการป้องกันที่มีอยู่
6. หลีกเลี่ยงการสัญญาในสิ่งที่ไม่แน่นอน
ไม่ควรให้คำมั่นสัญญาที่อาจไม่สามารถทำได้ เช่น "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราแน่นอน" แต่ให้เน้นที่ "เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปลอดภัย"
7. ใช้การเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย
อธิบายสถานการณ์ซับซ้อนด้วยการเปรียบเทียบที่เด็กคุ้นเคย เช่น เปรียบเทียบการป้องกันตัวกับการใส่หมวกกันน็อคเวลาขี่จักรยาน
8. ส่งเสริมการแสดงออกผ่านศิลปะ
ให้เด็กได้วาดรูป เล่าเรื่อง หรือเล่นเพื่อแสดงออกถึงความรู้สึก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีสำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถใช้คำพูดอธิบายความรู้สึกได้ดี
9. รักษาความเป็นปกติในชีวิตประจำวัน
เน้นย้ำถึงกิจกรรมและกิจวัตรปกติที่ยังคงดำเนินต่อไป เช่น การเรียน การเล่น การทานอาหารร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นคงทางจิตใจ
10. แสดงตัวอย่างการรับมือที่ดี
เป็นแบบอย่างในการจัดการกับความเครียด และความกังวลอย่างสร้างสรรค์ เช่น การหายใจลึก การพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ และการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
หลักการสำคัญที่ควรรู้
ความจริงใจ: ตอบอย่างซื่อสัตย์แต่เหมาะสม
ความอดทน: เด็กอาจถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ
ความสม่ำเสมอ: สื่อสารอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
การเฝ้าสังเกต: สังเกตพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็กอย่างใกล้ชิด
หากเด็กแสดงอาการผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เช่น นอนไม่หลับ ไม่ยอมแยกจากผู้ปกครอง หรือมีพฤติกรรมถอยหลัง ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น
Related Courses
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอการเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ การปฐมพยา ...



Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกาย ป.1-3
การฝึกการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานในวัยเด็กเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการวางพื้นฐานที่ถูกต้อง นำไปสู่พัฒนาการด้านร่างก ...



Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกาย ป.1-3
ไอเดียออกแบบ และจัดงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ
สร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ ด้วยการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงทั้งในชีวิตการทำงานแล ...



ไอเดียออกแบบ และจัดงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
วัยทีนยุคใหม่ จัดการเวลายังไงให้สมดุล
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจ ทั้งโซเชียลมีเดีย การเรียน กิจกรรมต่าง ๆ และการใช้ชีวิตส่วนตัว การจัดการเวลาจึงเป็นทั ...



Related Videos


Starfish Labz - Online Learning Platform with Community


10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO


น้องยินดี: เด็กอัจฉริยะ คิดค้นการใช้มอส กำจัด PM2.5

