การฝึกวินัยในการทำงานอย่างไรดี? เคล็ดลับแสนง่ายเปลี่ยนวันเหนื่อยหน่ายให้กลายเป็นวัน Productive

ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกเหนือจากการใช้ชีวิตประจำวันการแก้ไขปัญหาต่างๆ และการดูแลตัวเองในด้านต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งอย่างที่อาจชวนให้เรารู้สึกท้อแท้ เหนื่อยหน่าย หรือหมดกำลังใจได้ง่ายๆ คือเรื่องของการทำงานหรือการมี Motivation (แรงจูงใจ) ต่างๆ ในการลุกขึ้นมาในแต่ละวันเพื่อทำสิ่งต่างๆ ในงานของเราให้เสร็จนั่นเองค่ะ

ไม่ว่าเราจะรักงานที่เราทำหรือไม่หรืออาจจะต้องทำไปก่อนเพื่อประคองตัวเอง ความรู้สึก Burnt Out เหนื่อยหน่ายเหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้แต่สิ่งสำคัญก็คือสิ่งเหล่านี้ไม่คงอยู่ตลอดไปและเรายังสามารถใช้เคล็ดลับ วิธีการง่ายๆ ในการเติมเสริมพลังบวกช่วยให้เรามีพลังต่อ Tasks ต่างๆ ในงานของเราแต่เอ้ . . . จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้างนะที่เหมาะกับเรา ที่เราน่าจะลองนำไปใช้ได้จริงๆ ตาม Starfish Labz มาค้นหากันในบทความนี้เลยค่ะ  

การฝึกวินัยในการทำงานอย่างไรดี? เคล็ดลับแสนง่าย เปลี่ยนวันเหนื่อยหน่ายให้กลายเป็นวัน Productive

1. ฝึกสร้างวันในรูปแบบ Ritual และมี Structure

สำหรับใครที่กำลังรู้สึกเหนื่อยกับแต่ละวันของตัวเองโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องทำงาน เคล็ดลับแรกก็คือการลองปรับวันให้มีความเป็นระบบ (Structured) เปลี่ยนวันของเราให้มีความเป็นสัดส่วนมีการวางแผนกิจกรรมหรือกิจวัตรในวันของเราให้แน่ชัด เช่น การมี Morning Routine ตอนเช้า ก่อนเริ่มการทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ตามด้วยการพักช่วงเที่ยง Afternoon Routine ก่อนเริ่มทำงานต่อในช่วงบ่าย จากนั้นเมื่อจบกิจกรรมต่างๆ ของวันแล้ว จึงต่อด้วย Evening Routine การหยุดพักจากการทำงาน การกินข้าว อาบน้ำและใช้เวลาต่างๆ ในช่วงเย็น เมื่อช่วงเย็นเสร็จ เรายังอาจมี Bedtime Routine หรือช่วงเวลาก่อนนอนของเรา เราอยากทำอะไรอยากดูแลตัวเองหรือพาตัวเองเข้านอนแบบไหนก็ได้สิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถช่วยให้ร่างกายของเราทำงานอย่างเป็นระบบลดการเกิดโมเมนต์ที่ร่างกายรู้สึกว่าเขาต้องอยู่ทุกที่หรือทำทุกอย่างในช่วงเวลาเดียวกันแถมใครที่ Sensitive เป็นพิเศษเหนื่อยง่ายหรืออ่อนไหวง่ายยังเสริมเหล่า Rituals หรือกิจกรรม Self-Care เล็กๆ ระหว่างการทำงานได้อีกด้วยเรียกได้ว่าใครชอบแบบไหนต้องลองวางแผนกันออกมาเลย

2. การดูแลร่างกายและจิตใจให้พร้อมอยู่เสมอ

ร่างกายและจิตใจถือเป็นสิ่งแสนสำคัญในการทำงาน นอกเหนือจากการจัดวันของเราให้เป็นสัดส่วนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็จึงคือการเริ่มต้นการดูแลร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะในเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย และไปจนถึงการดูแลจิตใจต่างๆ

หลายๆ คนมักคิดว่าการเริ่มดูแลร่างกายและจิตใจตัวเองเป็นสิ่งที่ยาก ต้องใช้เวลานานกว่าเริ่มฝึกวินัยในการทำงานอีก แต่เคล็ดลับฉบับ Starfish Labz คือเราเริ่มอย่างง่ายๆ ได้เลยค่ะและยังเริ่มแบบไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น เช่น หากเรารู้สึกว่าเรายังไม่พร้อมจะออกกำลังกาย อยากลองดูแลเรื่องการกินก่อน เราก็เริ่มที่การกิน หรือถ้าการออกกำลังกายหนักๆ อาจจะยังไม่ใช่ทางของเรา เรายังไม่พร้อม ร่างกายเรายังไม่ไหว เราลองเปลี่ยนมาเต้นง่ายๆ ที่บ้าน หรือวิ่งเหยาะๆ ในเวลาที่พอเหมาะ

ถ้าเรารู้สึกว่าสุขภาพจิตเรามีปัญหา แต่เรากลัวพบจิตแพทย์ เราลองค้นหาวิธีการดูแลตัวเอง (Self-Care) เบื้องต้นด้วยตัวเองก่อนไหม มีการเยียวยาจิตใจมากมายที่อาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในบริบทของการรักษากับแพทย์ เช่น เราอาจค้นพบว่าเทคนิคการ Self-Soothing (การปลอบโยนตัวเอง) เชิงองค์รวมแบบการแช่ใบหน้าของเราลงน้ำเย็นเป็นวิธีที่ใช่ สำหรับเรามาก สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้เวลากังวลหรือเครียดๆ หรือการเขียนสิ่งที่เรารู้สึกดี หนึ่งอย่างในวันนี้ก่อนนอนก็ช่วยเปลี่ยนวันธรรมดาของเราให้เป็นวันที่รู้สึกดีขึ้นมาได้

เมื่อเราพร้อมอยากลองพบคุณหมอ จิตแพทย์ นักจิตบำบัด หรือฮีลเลอร์ที่มีความเชี่ยวชาญอื่นๆ เราก็สามารถทำได้ แต่เพื่อไม่ให้เรารู้สึกท่วมท้น (Overwhelmed) หรือรู้สึกว่ามันมากเกินไป เราจึงอาจค่อยๆ เริ่มที่ตัวเองก่อนนั่นเอง

3. ใช้เคล็ดลับการจัดการหรือแบ่งเวลาในการทำงาน

สำหรับคนที่ชื่นชอบการพัฒนา การเรียนรู้วิธีหรือเคล็ดลับต่างๆ ในการพัฒนาตนเองในการทำงานแบบโดยตรง อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ Starfish Labz ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือลองใช้เหล่าเทคนิคการจัดการเวลารวมถึงการตัดสินใจ การแก้ไขปัญหาชื่อดังต่างๆ ที่ได้รับการใช้งานและพิสูจน์มาแล้วได้ผลมากมาย เช่น เทคนิคการแก้ไขปัญหาหรือการตัดสินใจด้วยกฎ 80:20 หรือ กฎพาเรโต (Pareto Analysis) หรือการใช้เทคนิคบริหารเวลาแบบ Pomodoro Technique แบ่งการทำงานออกเป็น Session (ช่วงระยะเวลา) เล็กๆ ที่มีการพัก (Break) เล็กๆ หรือใหญ่ๆ คั่นอยู่ เช่น ทำงาน 25นาที พัก 5 นาที หรือทำต่อเนื่องเลย 60 นาทีแล้วพัก 15 หรือ 20 นาที เป็นต้น

4. เรียนรู้และพัฒนาทักษะอาชีพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากทักษะเรื่องการจัดเวลาหรือการตัดสินใจต่างๆ อีกหนึ่งทักษะที่สามารถช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลงเวลาทำงาน ก็คือความสามารถของเราที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง ในเคล็ดลับนี้ หลักการก็คือการฝึกในสิ่งที่เราทำหรือในทักษะอาชีพงานของเราให้เชี่ยวชาญอยู่เสมอหรือมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้การทำงานของเราง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเองค่ะ

หลายครั้งเราอาจคิดว่าเราเข้าใจสิ่งที่เราทำหรือเรามีทักษะความสามารถที่ดีที่สุดแล้วแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้ง จริงๆ เราก็ยังต้องมีสิ่งที่ต้องพัฒนาและเมื่อพัฒนาแล้วบอกได้เลยว่าสามารถช่วยเรื่องความเหนื่อยเวลาทำงานได้มากสุดๆ แถมใครทำร่วมกับคนอื่นมีลูกค้า (Clients) ต่างๆ ยังช่วยลดเรื่องการปรับแก้งาน ช่วยให้งานผ่านฉลุยไม่ต้องเครียดและกังวลกันอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย

5. เปลี่ยนความพยายามในรูปแบบการบังคับตัวเองให้กลายเป็นสร้างนิสัยแบบใหม่วันละเล็กวันละน้อย

การฝึกวินัยในการทำงานต้องอาศัยเวลา หากเราบังคับตัวเองมากไป หรือใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาด้วยการบังคับตัวเองผลที่ได้อาจกลายเป็นความรู้สึกเหนื่อยและยากยิ่งกว่าเดิมดังนั้นแล้วในเคล็ดลับสุดท้ายนี้คือการเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาตัวเองแบบเดิมๆ ด้วยคำว่าต้องทำแบบนี้หรือแบบนั้นไปที่การสร้างกิจวัตรใหม่ๆ โฟกัสที่การสร้าง Habits หรือนิสัยที่ดีต่างๆ ของเราในการดูแลตัวเองและการเปลี่ยนแปลงไปสู่วินัยในการทำงานที่ช่วยให้รู้สึกดี มีพลังนั่นเอง เรียกได้ว่าใครที่กำลังมองหาเคล็ดลับการพัฒนาตัวเองอยู่อยากฝึกเรื่องความรับผิดชอบ ต้องลองหนึ่งใน 5 เคล็ดลับนี้จาก Starfish Labz เลือกเคล็ดลับที่ใช่ แล้วเริ่มสร้างกิจวัตรการทำงานใหม่ที่ดีกันเลย!

อ้างอิง:

• What Is Pareto Analysis? How to Create a Pareto Chart and Example
• Pareto Analysis - Choosing the Solution With the Most Impact