สอบสัมภาษณ์อย่างไรให้ผ่าน คู่มือการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์
ช่วงเวลาในการสอบสัมภาษณ์ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญของผู้สมัครงานแทบทุกคน แต่สำหรับผู้สมัครหลายๆ คนที่อาจจะเป็น First Jobbers หรือเป็นผู้สมัครงานเป็นครั้งแรกๆ ความกลัว ความกังวลก็ยิ่งมักล้นกว่าผู้สมัครท่านอื่นๆไหนจะต้องเตรียมตอบคำถามไหนจะต้องเตรียมสิ่งอื่นๆ หรือเปล่าที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้ ในฐานะผู้สมัคร First Jobbers แล้ว เราควรต้องรู้อะไรบ้าง หรือเตรียมอะไรบ้างเพื่อให้ช่วงเวลาในการสอบสัมภาษณ์ของเราออกมาอย่างดีที่สุดในบทความนี้ Starfish Labz มีคำตอบ ~ มาพกคู่มือการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์ฉบับครบแถมกะทัดรัดนี้เก็บไว้ข้างกายกันเลย
สอบสัมภาษณ์ฉบับมือโปร คู่มือการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์ฉบับ First Jobbers จบ ครบ ง่ายใน 3 สเต็ป
สเต็ปที่ 1 การเตรียมตัวก่อนการสอบสัมภาษณ์
ในทุกๆ การสอบสัมภาษณ์งาน สิ่งที่เราจะได้เผชิญก็คือ 3 สเต็ป หรือ 3 ช่วงระยะเวลาสำคัญ นั่นคือ 1) ช่วงเวลาการเตรียมตัวก่อนการสัมภาษณ์, 2) ช่วงเวลาเตรียมตัวในวันสัมภาษณ์ และ 3) ช่วงเวลาการติดตามหรือจัดการตนเองในจุดต่างๆ หลังการสัมภาษณ์เสร็จสมบูรณ์
การแบ่งกระบวนการสัมภาษณ์ออกเป็น 3 ช่วงระยะเวลาสำคัญๆ แบบนี้ ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของสิ่งสำคัญที่เราต้องเตรียมตัวอย่างแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างดีและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสำหรับในช่วงเวลาแรกสุดหรือก่อนการสัมภาษณ์ สิ่งที่เราควรเตรียมตัวอย่างดีที่สุดก็คือ
1. การศึกษา ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
อาจฟังดูเหมือนเป็นการตระเตรียมที่ไม่สำคัญหรือคงไม่เกิดประโยชน์เลยสำหรับ First Jobbers แต่รู้ไหมคะว่าเกือบ 90% หรืออาจจะเกือบ 100% เลยก็ว่าได้ของในกระบวนการสัมภาษณ์ทุกๆบริษัทจะมีการสอบถาม หรือดูความสนใจจริงๆ ของเราในการทำงานที่นี่อยู่เสมอ
หากไม่ถามตรง ทางบริษัทก็อาจจะใช้วิธีการสังเกต หรือชวนถามเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับบริษัทเพื่อดูว่าเรารู้จักที่นี่จริงๆไหม เรามาสมัครที่นี่เพราะอะไร เรามาสมัครเล่นๆ หรือเปล่า หรือเราสนใจจริงๆ การดูความตั้งใจและความสนใจของเราในการมาสมัครถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สัมภาษณ์ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้ว เขาก็ต้องการคนที่สามารถครองตำแหน่งในระยะยาว มีความสนใจจริงๆ ไม่ได้มาเพราะกดสุ่มส่ง Resume มาเล่นๆ หรือมั่วๆ นั่นเอง
2. การเตรียมหรือฝึกซ้อมตอบคำถาม ตลอดจนการทำแบบทดสอบ (หากมี)
คำถามในกระบวนการสมัครส่วนใหญ่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 หมวดหลักๆ ในหมวดแรกเป็นคำถามที่เรามีโอกาสเจอแน่ๆ อย่างน้อย 2 หรือ 3 คำถาม ถือเป็นคำถามมาตรฐานหรือพื้นฐานในทุกๆ การสัมภาษณ์งาน ได้แก่
- กรุณาแนะนำตัว
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- คุณสนใจอะไรในตำแหน่งนี้
- ทำไมถึงลาออกจากบริษัทเดิม
- ช่วยอธิบายการทำงานในตำแหน่งเดิมของคุณ หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา
- ต้องการฐานเงินเดือนเท่าไหร่
- มีคำถามอะไรไหม เป็นต้น
ในหมวดที่ 2 อาจมีความยากขึ้นมาอีกนิด บางบริษัทอาจเตรียมคำถามในหมวดนี้เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อสำรวจมุมมอง ความเห็น และความเหมาะสมต่างๆ คำถามในหมวดนี้อาจมีความชี้เฉพาะ (specific) หรือเฉพาะทางในด้านความชำนาญที่เรามาสมัคร อาทิ
- เรามองตัวเองอย่างไรในอนาคต
- เรามีรูปแบบการทำงานอย่างไรโดยปกติ
- จุดอ่อน-จุดแข็งของเราคืออะไร
- เราชอบการทำงานแบบไหน
- เรามีทักษะนี้ไหม หรือหากมี เรามีในระดับใด เป็นต้น
โดยในการเตรียมตัวตอบคำถาม นอกเหนือจากการลองร่างหรือเตรียมคำตอบ ผู้สมัครยังควรลองฝึกกล่าว หรือเอ่ยออกมาอย่างง่ายๆ ตอบในแบบฉบับที่เรารู้สึกว่าผ่อนคลาย เป็นตัวเรา หากเรามีทักษะการสื่อสารที่ดีอยู่แล้ว การสนทนาในจุดนี้ก็เป็นสิ่งง่ายๆ แต่หากเรายังรู้สึกว่าตัวเองยังขาด ก็อาจควรต้องมีการพัฒนาตนเองเองในจุดนี้เพิ่มสักนิด เพื่อให้เรามั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์อย่างดีที่สุด นอกเหนือจากการเตรียมตัวตอบคำถามแล้ว บางบริษัทยังอาจมีแบบทดสอบเล็กๆ หรือใหญ่ๆ หลังการสัมภาษณ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการแจ้งเราล่วงหน้าในการนัดหมาย อย่างไรก็ดี บางครั้ง บางบริษัทก็อาจไม่ได้ระบุถึงกระบวนการในการทดสอบนี้ ผู้สมัครที่พร้อมจึงอาจควรเผื่อใจไว้ด้วยว่าในบางกรณี ก็อาจมีแบบทดสอบหลังการสัมภาษณ์ แต่ First Jobbers อย่างเราก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะแบบทดสอบโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเกี่ยวกับทักษะในตำแหน่งที่เราสมัคร หากเรามีสกิล มีความพร้อมอยู่แล้ว ก็แสดงศักยภาพ และความสามารถของเราออกไปให้เต็มที่ อย่างดีที่สุดกันเลย
3. การเตรียมเอกสารต่างๆ ที่มีการกำหนดหรือเรามองเผื่อว่าจำเป็น
บางบริษัทอาจระบุมาเลยว่าต้องการเอกสารอะไรบ้างในวันสัมภาษณ์ แต่บางบริษัทก็ไม่ได้ต้องการและแจ้งเรา สิ่งที่ดีที่สุดคือเตรียมไปก่อนเพื่อให้อุ่นใจ โดยเอกสารส่วนใหญ่ที่มักมีการขอหรือใช้ในช่วงวันสัมภาษณ์ ได้แก่ บัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, ใบ Transcript หรือหลักฐานการจบการศึกษา, Resume และ Portfolio ของเรา ซึ่งหากเรากังวลว่าจะต้องเตรียมสิ่งใดๆ เหล่านี้ไปหรือเปล่า ยังสามารถลองสอบถามกับทางบริษัทได้ ยกเว้นสิ่งที่ควรเตรียมไปอย่างแน่นอนก็คือตัว Resume หรือใบประวัติส่วนตัวของเรา ควรพกไว้ติดตัวเผื่อในวันสัมภาษณ์ เนื่องจากหลายๆ ครั้ง ผู้สัมภาษณ์อาจกล่าวถึงทักษะหรือจุดๆ ต่างใน Resume ของเรา ซึ่งถ้าหากเราจำไม่ได้ ก็จะช่วยให้เราสามารถหยิบ Resume ของเราขึ้นมาดูเพื่อตอบคำถามและก็คงอาจจะไม่เหมาะหากเราจะขอทางผู้สัมภาษณ์ดูว่าใน Resume เราเขียนอะไรลงไปนั่นเอง
4. การเตรียมตัวเรื่องแต่งกายและบุคลิกภาพโดยรวม
เตรียมทุกอย่างก่อนถึงวันสัมภาษณ์แล้ว สิ่งสุดท้ายก็คือการแต่งกายและฝึกหรือดูบุคลิกภาพของเราโดยรวม เราควรใส่ชุดอะไรไปในการสมัครที่นี่ ชุดนี้เหมาะไหม รวมถึงบุคลิกภาพการเดิน ท่าทาง หรือการนั่งเวลาสนทนาต่างๆ ของเราควรมีการฝึกเพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนไหม หากเราใส่กระโปรง นั่งแบบนี้จะดีหรือเปล่า จะรู้สึกถนัดเวลาเดินทาง สบายเวลานั่งและเหมาะสมไหม สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เรานี้ช่วยเปลี่ยนวันสัมภาษณ์ที่น่ากังวลให้เป็นวันที่แสนสบายเลยก็ว่าได้ค่ะ
สเต็ปที่ 2 การเตรียมตัวในวันสัมภาษณ์
ถึงวันสัมภาษณ์ เมื่อเราเตรียมตัวก่อนวันอย่างดีแล้ว เมื่อถึงวัน จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ก่อนถึงวันเพียงแค่ควรพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ตื่นนอนควรหาอะไรรองท้องและควรเผื่อเวลาการเดินทางอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง ป้องกันรถติดหรือสิ่งต่างๆ ผิดพลาด อย่าลืมปากกา เอกสารที่เราเตรียมไว้ และชุดคู่ใจของเรา
สเต็ปที่ 3 การจัดการตนเองในช่วงเวลาหลังการสอบสัมภาษณ์
หลังสอบสัมภาษณ์เสร็จแล้ว บางบริษัทอาจแจ้งระยะเวลาที่แน่นอนในการแจ้งผลกลับ ในขณะที่บางบริษัทอาจบอกเพียงแค่คร่าวๆ ว่าหากผ่าน จะมีการติดต่อกลับไป ในช่วงนี้ โดยขั้นต่ำแล้ว อย่างเร็วที่สุดเราอาจต้องรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรืออย่างช้าที่สุดคือราว 1 เดือน แนวทางของแต่ละบริษัทมักแตกต่างกันไป แต่หากเกิน 1 เดือนหรือใกล้ครบ 1 เดือนแล้วยังไม่มีการตอบกลับ เราก็อาจอีเมลสอบถามทางบริษัทเกี่ยวกับผลลัพธ์เพิ่มเติมได้หากทางบริษัทไม่ได้กำหนดวันแจ้งผลที่แน่นอน หากผลออกมาว่าเราผ่าน มีโอกาสได้ทำงาน ผู้สมัครเองก็ยังมีโอกาสพิจารณาและเลือกที่ต่างๆ หากเรามั่นใจว่าเป็นที่นี่ ก็สามารถ SAY YES ตอบตกลงได้ทันที ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเป็นการสอบถามถึงวันที่สามารถเริ่มทำงานได้ และรายละเอียดต่างๆ แต่หากเราเองรับการสัมภาษณ์แล้วพบว่าไม่ถูกใจ คงไม่เหมาะกับเรา หรือมีตัวเลือกอื่นๆ ที่เราสนใจกว่า เราก็สามารถปฏิเสธทางบริษัทได้เช่นกัน ผ่านการเขียนอีเมลตอบกลับอย่างเป็นทางการ แสดงถึงความเคารพ และการขอบคุณต่อโอกาสจากทางบริษัท และความเป็นไปได้ข้างหน้าที่เราอาจจะกลับมาพบกันในอนาคต
และนี่ก็คือคู่มือการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์ฉบับครบ จบในที่เดียวที่วันนี้ Starfish Labz ได้นำมาฝากทุกคนกันค่ะ ไม่ยากเลยใช่ไหมละคะเมื่อลองแบ่งออกมาในลักษณะการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์ 3 สเต็ปง่ายๆ แบบนี้แล้ว First Jobbers ท่านไหนที่กำลังเตรียมสอบสัมภาษณ์ อ่านคู่มือนี้แล้ว เชื่อว่าจะต้องช่วยให้เห็นภาพและเตรียมตัวได้อย่างดีขึ้นแน่นอน
อ้างอิง:
Related Courses
เป็นครูยุคใหม่ทักษะอะไรบ้างที่ต้องมี
มาเตรียมความพร้อมกับการเป็นครูในยุคใหม่ ทั้งผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นสายอาชีพครู หรือผู้ที่เป็นครูอยู่แล้วมาร่วมอัปเดตทักษะที่ครูยุคใหม่จะ ...
ไอเดียการใช้ Visual Thinking กับวัยเรียนและวัยทำงาน
วันทีนและวัยทำงานต้องห้ามพลาด กับการใช้ Visual Thinking เพื่อสร้างความคิดของคุณให้กลายเป็นภาพอย่างสนุกสนาน มาเรียน ...
ไอเดียการใช้ Visual Thinking กับวัยเรียนและวัยทำงาน
ต้องใช้ 100 เหรียญ
นวัตกรรม Booklet ทำอย่างไรให้ ว้าว!
วันนี้ Starfish Labz มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ครูผู้สอนได้เทคนิคการออกแบบกิจกรรมใน Booklet ให้มีความน่าสนใจ สร้างสรร ...
นวัตกรรม Booklet ทำอย่างไรให้ ว้าว!
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
หากคุณเป็นคนชอบวาดรูป ชอบการขีดเขียน หรือการจดบันทึก อยากลองทำ Visual Note แต่ไม่รู้จะสื่อสารออกมาอย่างไรดี คอร์สเ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
ต้องใช้ 100 เหรียญ