ในโลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและความรู้เก่าอาจล้าสมัยได้ภายในเวลาไม่กี่ปี การเรียนรู้จึงไม่สามารถจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน หรือวัดด้วยเกรดและคะแนนสอบเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป เด็กๆ ต้องการมากกว่าความรู้ทางวิชาการ พวกเขาต้องการ “แนวคิดที่แข็งแกร่ง” เพื่อปรับตัว ท้าทายตนเอง และเรียนรู้จากทุกประสบการณ์
หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่ผู้ปกครองและครูในศตวรรษที่ 21 ควรเข้าใจและส่งเสริมให้เด็กๆ มี คือ Growth Mindset หรือ ความคิดแบบเติบโต ซึ่งเป็นรากฐานของการเรียนรู้ที่แท้จริงและต่อเนื่องตลอดชีวิต
บทความนี้ Starfish Labz จะพาไปรู้จักว่า Growth Mindset คืออะไร และแนะนำ 5 ไอเดียง่ายๆ ที่สามารถช่วยปลูกฝังแนวคิดนี้ให้กับเด็กๆ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นคนที่ไม่กลัวความล้มเหลว และพร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
Growth Mindset คืออะไร?
“Growth Mindset” หรือในภาษาไทยว่า “ความคิดแบบเติบโต” เป็นแนวคิดที่พัฒนาโดย ดร.แครอล ดเวค (Dr. Carol Dweck) นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เธอค้นพบว่าเด็กที่เชื่อว่าความสามารถสามารถพัฒนาได้จากความพยายาม มักมีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากกว่าเด็กที่เชื่อว่าความสามารถเป็นสิ่งตายตัว
เธอแบ่งแนวคิดของผู้เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม:
- Fixed Mindset (ความคิดแบบตายตัว): เชื่อว่าความฉลาด ทักษะ หรือพรสวรรค์เป็นสิ่งที่ติดตัวมา เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เด็กกลุ่มนี้มักหลีกเลี่ยงความท้าทาย กลัวล้มเหลว และไม่ชอบความพยายามที่มากเกินไป
- Growth Mindset (ความคิดแบบเติบโต): เชื่อว่าความสามารถใดๆ ก็สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝน การเรียนรู้จากความผิดพลาด และความพยายาม เด็กกลุ่มนี้จะกล้าลองสิ่งใหม่ๆ รู้จักปรับตัว และเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง
ทำไม Growth Mindset จึงสำคัญสำหรับเด็ก?
- เพราะโลกในปัจจุบันต้องการคนที่ “เรียนรู้เป็น” ไม่ใช่แค่ “เก่งแต่กำเนิด”
- เพราะเด็กที่มี Growth Mindset จะไม่กลัวความล้มเหลว แต่ใช้มันเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ
- เพราะพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ยืดหยุ่นทางความคิด รับฟังความคิดเห็น และกล้าพัฒนาตนเองเสมอ
5 ไอเดียช่วยปลูกฝัง Growth Mindset ให้เด็กๆ
ไอเดียที่ 1: เปลี่ยนคำพูดของผู้ใหญ่ให้ส่งเสริมการเติบโต
คำพูดเล็กๆ จากผู้ใหญ่สามารถสร้างหรือทำลายทัศนคติของเด็กได้อย่างคาดไม่ถึง การชมเชยแบบ “ยกย่องความพยายาม” แทนที่จะชมแค่ “ผลลัพธ์” คือวิธีสร้าง Growth Mindset อย่างง่ายและมีพลังที่สุด
วิธีนำไปใช้:
- ❌ แทนที่จะพูดว่า “เก่งมากเลย ทำข้อสอบได้เต็ม”
- ✅ ให้พูดว่า “หนูตั้งใจฝึกซ้อมทุกวัน ผลเลยออกมาดีมากเลยนะ”
- ❌ แทนที่จะบอกว่า “ยังไงเธอก็ไม่เก่งเลข”
- ✅ ให้พูดว่า “ตอนนี้ยังไม่เข้าใจ แต่เราฝึกได้ เดี๋ยวก็เก่งขึ้น”
ตัวอย่างกิจกรรม:
- ให้เด็กทำ “สมุดคำพูดกำลังใจ” เขียนประโยคที่ช่วยให้ตัวเองลุกขึ้นมาเมื่อล้มเหลว เช่น “ฉันยังทำไม่ได้... แต่ฉันกำลังเรียนรู้”
ไอเดียที่ 2: สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลองผิดลองถูก
เด็กจะไม่กล้าลองสิ่งใหม่ หากรู้สึกว่า “ความผิดพลาดคือความล้มเหลว” หน้าที่ของครูและพ่อแม่คือการสร้าง “พื้นที่เรียนรู้” ที่ปลอดภัย ซึ่งเด็กสามารถล้มและลุกใหม่ได้อย่างไม่ต้องอาย
วิธีนำไปใช้:
- สนับสนุนให้เด็กตั้ง “เป้าหมายที่ท้าทาย” โดยไม่กลัวว่าจะพลาด
- ทุกครั้งที่เด็กทำผิด ให้ตั้งคำถามแทนคำตำหนิ เช่น "หนูคิดว่ามันผิดเพราะอะไร?” “ถ้าเริ่มใหม่ หนูจะทำอะไรต่างไปบ้าง?”
ตัวอย่างกิจกรรม:
- “วันแห่งข้อผิดพลาด” ให้เด็กแบ่งปันข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น พร้อมบทเรียนที่ได้จากมัน
ไอเดียที่ 3: ฝึกการสะท้อนตนเอง (Self-Reflection)
การสะท้อนตัวเองเป็นหนึ่งในวิธีสร้าง Growth Mindset ที่ทรงพลังมาก เพราะทำให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองอย่างชัดเจน
วิธีนำไปใช้:
หลังทำกิจกรรมหรือเจอสถานการณ์ท้าทาย ให้ถามคำถามเหล่านี้:
- อะไรคือสิ่งที่ทำได้ดี?
- อะไรที่ยังอยากปรับปรุง?
- เรารู้สึกอย่างไรระหว่างทำ?
- เราเรียนรู้อะไรจากมัน?
ตัวอย่างกิจกรรม:
ให้เด็กเขียน “ไดอารี่การเรียนรู้” ประจำสัปดาห์ เพื่อสะท้อนว่าเขาพัฒนาอะไรไปบ้าง
ไอเดียที่ 4: เสริม ทักษะนอกห้องเรียน ให้หลากหลาย
เด็กไม่สามารถเรียนรู้เรื่อง Growth Mindset ได้จากหนังสือเพียงอย่างเดียว เพราะหลายครั้ง ความคิดแบบเติบโตเกิดจาก “ประสบการณ์จริง” โดยเฉพาะกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ท้าทายความคิดและอารมณ์
กิจกรรมที่แนะนำ:
- เล่นกีฬา หรือฝึกศิลปะ ที่ต้องใช้ความอดทน
- ทำโครงการอาสา เช่น เก็บขยะในชุมชน
- สร้างสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
- การทำอาหารง่ายๆ หรือดูแลพืชผักในบ้าน
ประโยชน์:
- เด็กจะเรียนรู้ว่า “ความพยายาม” สำคัญกว่าความเก่งแต่แรก
- พัฒนาความมั่นใจในตนเอง
- ฝึกการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหา
การส่งเสริมทักษะนอกห้องเรียน จึงไม่ใช่แค่เพื่อความสนุก แต่เป็นการสร้างนิสัยของคนที่ “เรียนรู้เป็น” และพร้อมเติบโตตลอดชีวิต
ไอเดียที่ 5: ใช้ Role Model เป็นแรงบันดาลใจ
“ตัวอย่างที่ดีทรงพลังมากกว่าคำสอนเสมอ”
เด็กๆ จะเข้าใจความหมายของ Growth Mindset ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จจากความพยายาม ไม่ใช่เพราะ “พรสวรรค์แต่กำเนิด”
วิธีนำไปใช้:
- เล่าเรื่องบุคคลที่ต้องผ่านอุปสรรค เช่น โทมัส เอดิสัน, โอปราห์ วินฟรีย์, ไมเคิล จอร์แดน หรือแม้แต่นักเรียนรุ่นพี่ที่เคยล้มเหลวแล้วลุกได้
- ใช้หนังสือเด็กที่สอดแทรกเนื้อหาเรื่องความพยายาม
- เปิดวิดีโอ หรือสารคดีสั้นให้เด็กดู แล้วให้เด็กแชร์ว่าได้เรียนรู้อะไร
- ตัวอย่างกิจกรรม:
- ให้เด็กเขียนจดหมายถึง Role Model ที่เขาชื่นชม และอธิบายว่าแรงบันดาลใจนั้นส่งผลต่อเขาอย่างไร
ประโยชน์ที่ได้รับ:
- ปลูกฝังความเชื่อว่า “เราทำได้” – เด็กจะเห็นว่าความสำเร็จเกิดจากความพยายาม ไม่ใช่แค่พรสวรรค์
- สร้างแรงบันดาลใจจากความเป็นจริง – เรื่องราวของ Role Model ช่วยให้เด็กเห็นภาพชัดว่า การล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ
- เสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง – เมื่อเด็กเห็นว่าคนอื่นก็เคยล้มเหลวมาก่อน เด็กจะกล้าลองและกล้าพัฒนาตนเอง
- พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสะท้อนตนเอง – การให้เด็กวิเคราะห์ว่าเรียนรู้อะไรจาก Role Model ช่วยเสริมความเข้าใจตนเอง
- เสริมความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่น – การเรียนรู้จากผู้อื่นช่วยให้เด็กเปิดใจ เคารพ และเรียนรู้จากความหลากหลายมากขึ้น
สรุป: การปลูกฝัง Growth Mindset เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้
การสร้าง ความคิดแบบเติบโต ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องรอให้เด็กโต การเริ่มตั้งแต่วันนี้ ด้วยคำพูดที่ส่งเสริม การเปิดโอกาสให้ลองผิด การสะท้อนตนเอง การลงมือทำจริง และการเรียนรู้ผ่านตัวอย่างที่ดี จะช่วยให้เด็กค่อยๆ พัฒนาแนวคิด Growth Mindset อย่างยั่งยืน
ในโลกที่ความรู้เปลี่ยนเร็ว ทักษะล้าสมัยได้ตลอดเวลา สิ่งที่อยู่กับเด็กตลอดชีวิต คือ “ความเชื่อว่าเขาพัฒนาได้เสมอ” และนี่แหละคือของขวัญที่มีค่าที่สุดที่เราจะมอบให้พวกเขา
🌱 เพราะทุกความล้มเหลว คือก้าวแรกของการเติบโต และทุกวัน... คือโอกาสใหม่ในการเรียนรู้
อ้างอิง:
Related Courses
อยากเป็น Content creator ให้ดัง ต้องทำอย่างไร
หากใครกำลังฝันอยากเป็น Content Creator คอร์สนี้ตอบโจทย์ทุกคำถาม! เพราะคุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างคอนเทนต์สุดปัง แ ...



อยากเป็น Content creator ให้ดัง ต้องทำอย่างไร
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เสริมสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ร่วมกันแก้ไขสภาวะโลก
ผู้เรียนในช่วงอายุ 13-18 ปี เรียนรู้และเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนทั่วโลก เรา ...



เสริมสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ร่วมกันแก้ไขสภาวะโลก
เสริมทักษะการคิด รับมือกับวิกฤตอากาศด้วย Makerspace
ผู้เรียนในช่วงอายุ 13-18 ปี เรียนรู้และเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนทั่วโลก เรา ...



เสริมทักษะการคิด รับมือกับวิกฤตอากาศด้วย Makerspace
ปลุกพลังนวัตกรรุ่นใหม่ สร้างสังคมเมืองปลอดภัยและมีสุข
ผู้เรียนในช่วงอายุ 13-18 ปีสามารถใช้กระบวนการ STEAM Design Process ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอย่างมีค ...



ปลุกพลังนวัตกรรุ่นใหม่ สร้างสังคมเมืองปลอดภัยและมีสุข
Related Videos


แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต


ปรับพฤติกรรมอย่างไร เมื่อลูกฉันกลายเป็นเด็กเกเร


Starfish Future Labz Celebration

