พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จ ซึ่งการที่ลูกจะประสบความสำเร็จได้นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าพ่อแม่ก็มีส่วนไม่น้อย ตั้งแต่การเลี้ยงดู ฟูมฟัก ความเข้าใจและการให้คำแนะนำที่เหมาะสมงานวิจัยในต่างประเทศหลายชิ้นพบว่าพ่อแม่ที่มีลูกประสบความสำเร็จนั้น มีคุณลักษณะร่วมกันอยู่หลายประการต่อไปนี้คือ 20 คุณลักษณะที่พ่อแม่เหล่านี้มีร่วมกัน
1. ให้ลูกเป็นผู้นำในกิจกรรมง่ายๆ พ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกทดลองหาทางทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ไม่เข้าไปก้าวก่ายมากเกินไป ไม่ว่าจะการเรียน การเล่น การทำงานบ้าน ไปจนถึงปัญหาต่างๆ เช่น ทะเลาะกับเพื่อน หรือทำรายงานไม่ทัน ฯลฯ หากพ่อแม่ปล่อยให้ลูกลองทำด้วยตัวเองก่อน เด็กๆ จะได้ฝึกทักษะการคิด วิเคราะห์ และการควบคุมตนเองซึ่งเป็นพื้นฐานไปสู่ความสำเร็จ
2. ให้ลูกทำงานบ้าน พ่อแม่ยุคใหม่ย่อมรู้ดีว่างานบ้าน ช่วยสร้าง EF หรือ Excutive Fuction ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานในอนาคต เด็กๆ ที่ทำงานบ้าน ไม่เพียงฝึกความรับผิดชอบ แต่ได้ฝึกวางแผนงาน ทำความเข้าใจเรื่องบทบาทหน้าที่ และเรียนรู้ว่าแต่ละคนต่างเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนส่วนต่างๆ ภายในครอบครัว หรือกระทั่งสังคม
3. สอนลูกเรื่องทักษะสังคม งานวิจัยจาก Pennsylvania State University และ Duke University สหรัฐฯ ทำการสำรวจเด็กๆ กว่า 700 คนทั่วไปประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่วัยอนุบาล จนถึงอายุ 25 ปี พบว่าทักษะทางสังคมที่ดีตั้งแต่วัยอนุบาล มีความเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในวัยผู้ใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ โดยการศึกษาที่กินเวลากว่า 20 ปีนี้ พบว่าผู้ที่เข้ากับเพื่อนๆได้ดี ช่วยเหลือผู้อื่น เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตนเองตั้งแต่อนุบาล มีโอกาสเรียนจบปริญญาตรี และมีงานทำภายในอายุ 25 ปี มากกว่าเด็กที่ขาดทักษะทางสังคมที่ดีในวัยอนุบาล
4. พ่อแม่จบการศึกษาในระดับสูง งานวิจัยในปี 2014 จาก University of Michigan พบว่าแม่ที่เรียนจบอย่างน้อยมัธยมปลาย หรือปริญญาตรี มีแนวโน้มว่าลูกก็จะเรียนจบในระดับการศึกษาเดียวกัน นอกจากนี้การสำรวจเด็กจำนวน 14,000 ราย ระหว่างปีค.ศ. 1998 - 2007 พบว่าเด็กที่เกิดจากแม่วัยรุ่น (18 ปีหรือต่ำกว่า) มีโอกาสเรียนจบมัธยมปลายน้อยกว่า การศึกษาอีกชิ้นเมื่อปี 2009 ทำการสำรวจประชากร 856 รายในมหานครนิวยอร์ก พบว่าระดับการศึกษาของพ่อแม่ เมื่อลูกมีอายุ 8 ปี สามารถใช้ทำนายระดับการศึกษาของลูกในอีก 40 ปีต่อมาได้
5. สอนคณิตศาสตร์ลูกตั้งแต่เด็กๆ การสอนลูกให้มีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ตั้งแต่เล็กๆ ถือเป็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ พ่อแม่ที่สอนให้ลูกรู้จักตัวเลข การนับเลข การเรียงลำดับ และพื้นฐานทางคณิตศาสตร์อื่นๆตั้งแต่เริ่มเข้าอนุบาล มีแนวโน้มประสบความสำเร็จไม่เพียงทางด้านคณิตศาสตร์ แต่ยังรวมถึงด้านการอ่านด้วย
6. มีความสัมพันธ์อันดีกับลูก มีการศึกษาที่พบว่าแม้เด็กจะเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่หากได้รับการดูแลใกล้ชิดในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต เด็กๆ ไม่เพียงจะเรียนรู้ได้ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มประสบความสำเร็จด้านการศึกษาเมื่อเป็นผู้ใหญ่ด้วย ทั้งนี้เพราะพ่อแม่ที่ตอบสนองต่อสัญญาณต่างๆ ของลูกวัยทารกอย่างเหมาะสม ได้สร้างความรู้สึกมั่นคงทางใจให้กับเด็กๆ ทำให้ลูกกล้าที่จะออกไปเผชิญโลกกว้าง เรียนรู้และหาประสบการณ์ได้อย่างมั่นใจ
7. พ่อแม่ไม่เครียด พ่อแม่ที่มีความเครียด โดยเฉพาะเครียดจากงาน และการบริหารเวลาเพื่อดูแลลูกนั้น ส่งผลกระทบต่อสภาพอารมณ์ของเด็กๆ ได้ เพราะเด็กๆ สามารถจับสัญญาณสภาพอารมณ์ของคนใกล้ตัวได้ แต่หากพ่อแม่ไม่ค่อยเครียด บริหารชีวิตได้อย่างลงตัว เด็กๆ ก็จะได้รับสัญญาณเชิงบวก ทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล
8. ให้ความสำคัญกับความพยายามมากกว่าหลีกเลี่ยงความล้มเหลว การศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พบว่าเด็กและพ่อแม่ผู้ปกครองมักมองความสำเร็จด้วยสองมุมมองด้วยกัน หนึ่ง คือ Fixed Mindset มองว่าความสามารถของคนเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากพยายามแล้วไม่สำเร็จคือไม่เก่ง ไม่สามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ และสอง คือ Growth Mindset มองว่าสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องท้าทาย และความสามารถของคนเราพัฒนาได้ ถึงล้มเหลวแต่ถ้าพยายามสักวันผลลัพธ์จะต้องเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น พ่อแม่ที่ให้ความสำคัญกับความพยายาม คือมองด้วย Growth Mindset มีแนวโน้มที่จะเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จได้มากกว่า
9. แม่เป็น Working Mom การศึกษาจาก Harvard Bussiness School พบว่าเด็กๆ ได้ประโยชน์จากการที่แม่ทำงานนอกบ้าน กล่าวคือ ผลสำรวจพบว่าเด็กหญิงที่เติบโตมากับ Working Mom มีแนวโน้ม 23% มากกว่าเด็กที่เติบโตมากับ Full-time Mom ในการได้ทำงานระดับบริหาร และมีเงินเดือนสูงกว่า นักวิจัยอธิบายว่า อาจเป็นเพราะเด็กกลุ่มที่แม่ทำงานได้เห็น Working Mom เป็นแบบอย่างในการทำงาน จึงเรียนรู้และทำความเข้าใจผ่านการ สังเกตแม่ของตน
10. มีสถานะทางสังคมสูงกว่า แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาส่งผลกระทบต่อเด็กจำนวนมาก ซึ่งเด็กที่มาจากสถานะทางสังคมสูงกว่า มักมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาได้มากกว่า จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตสูง
11. สอนเรื่องความเพียร(Grit) ความเพียรคือความมานะ บากบั่น ไม่ย่อท้อ และไม่ถอดใจง่ายๆ แม้เจออุปสรรค เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะเกี่ยวข้องกับการตั้งเป้าหมายระยะยาว และยึดมั่นกับเป้าหมายนั้น
12. ควบคุมพฤติกรรม ไม่ใช่ควบคุมจิตใจ พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกโดยใช้วิธีควบคุมบงการจิตใจ ผ่านการกระทำและคำพูดต่างๆ เช่น พูดให้ลูกรู้สึกผิด ใช้คำพูดให้ลูกขาดความมั่นใจ คอยด้อยค่าลูกเพื่อให้ลูกเชื่อฟัง มักทำให้ลูกเติบโตพร้อมแผลในใจ ในทางกลับกันพ่อแม่ที่ควบคุมพฤติกรรม ด้วยการใช้ขอบเขตที่เหมาะสม เพื่อป้องกันลูกจากอันตรายต่างๆ เช่น กำหนดเวลากลับบ้าน หรือ กำหนดหน้าที่ทำงานบ้านก่อนออกไปเที่ยว เด็กๆ จะเติบโตมาอย่างเห็นคุณค่าในตัวเองและมีความมั่นคงทางอารมณ์ พร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากกว่า
13. เข้าใจเรื่องโภชนาการ ครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับโภชนาการที่สมดุล พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กๆ ได้ นอกจากนี้ การสร้างความรู้สึกให้ลูกยอมรับร่างกายของตนเอง มองร่างกายตัวเองในเชิงบวก ก็จำเป็นต้องมาจากทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่อภาพลักษณ์ของตนเอง และคนรอบตัว ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูก เมื่อรักตัวเอง รู้คุณค่าในตนเอง ก็เรียนรู้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีเรื่องใดให้กังวล
14. ตั้งชื่อลูกแบบที่จะไม่ถูกล้อ อาจเป็นเรื่องที่หลายคนคิดไม่ถึง แต่ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ มีผลกับความสำเร็จในชีวิตไม่มากก็น้อย ผลสำรวจพบว่าชื่อที่จำง่าย เรียกง่าย และเป็นมิตร มีโอกาสที่จะได้รับการติดต่อกลับจากบริษัทที่รับสมัครงานมากกว่า นอกจากนี้ การตั้งชื่อเล่นให้ลูก โดยเป็นชื่อที่อาจถูกล้อเลียน เช่น ชื่อภาษาต่างประเทศที่ออกเสียงยาก เช่น เคย่า อาจถูกล้อว่าขยะ หรืออาหารที่พ่อแม่ชอบกิน ชื่อเด็กหญิงที่ฟังคล้ายชื่อผู้ชาย หรือชื่อเด็กชายที่ฟังคล้ายชื่อเด็กหญิง แม้ในขณะที่ลูกยังเล็กๆ อาจฟังดูน่ารัก แต่เมื่อลูกโตขึ้นเข้าสู่สังคม ชื่อเหล่านี้อาจทำให้ลูกถูกล้อเลียน จนเสียความมั่นใจ กระทบการเรียนรู้ได้
15. ทะเลาะอย่างมีเหตุผล ลิ้นกับฟันย่อมมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา แต่พ่อแม่ที่มีลูกประสบความสำเร็จ เมื่อมีความขัดแย้งกัน มักโต้แย้งกันด้วยเหตุผล ควบคุมอารมณ์ และประนีประนอม สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆ เรียนรู้ทักษะทางสังคม และการรับมือกับความขัดแย้งอย่างเป็นเหตุเป็นผล
16. ปล่อยให้ลูกล้มเหลว พ่อแม่ที่มีลูกประสบความสำเร็จ มักปล่อยให้ลูกล้มเหลวมาก่อน เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ค่อยยื่นมือช่วยตลอดเวลา ให้ลูกเรียนรู้จากประสบการณ์ และความล้มเหลว เพื่อเป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต
17. ให้ดูหน้าจอแต่พอดี การศึกษาเมื่อปี 2011 จาก Ohio State University พบว่าเด็กที่ดูทีวีตั้งแต่เล็ก มักมีปัญหาด้านพัฒนาการทางภาษา อีกทั้งยังขาดการใช้เวลาคุณภาพกับพ่อแม่ ในทางกลับกันเด็กๆ ที่อ่านหนังสือกับพ่อแม่ มีแนวโน้มที่จะมีทักษะการสื่อสารและทักษะทางภาษาดีกว่า
18. ปล่อยให้ลูกตัดสินใจ พ่อแม่ที่คิดแทนลูก ตั้งแต่การเลือกเสื้อผ้า อาหารการกิน กิจกรรมยามว่างที่ลูกทำ มักทำให้เด็กๆไม่ได้พัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง หรือพ่อแม่ที่วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของลูก มักทำให้เด็กๆ ขาดความมั่นใจ จนไม่กล้าตัดสินใจอะไรเอง การปล่อยให้ลูกได้ตัดสินใจสิ่งต่างๆ ในชีวิตเองบ้าง ช่วยให้พวกเขาค้นพบตัวตน สิ่งที่ชอบ และค้นพบเส้นทางชีวิตของตนเองได้เร็วขึ้น
19. สอนให้ลูกควบคุมตนเอง ทักษะการควบคุมตนเอง หรือ Self-Control มีความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ พ่อแม่ที่สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตนเอง และควบคุมอารมณ์อย่างเหมาะสม เด็กๆ จะมีความมั่นคง ลดโอกาสการเกิดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง หรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขต่างๆ ได้
20. มองโลกแง่บวก การมองโลกแง่บวก ไม่ใช่การโลกสวยหลอกตัวเอง แต่เป็นการมองไปอนาคตและหวังสิ่งที่ดีกว่า แม้ว่าปัจจุบันอาจกำลังเผชิญกับปัญหา แต่ก็เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ การมองโลกแง่บวกคือการไม่หมดหวัง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่หลอกตัวเอง จะว่าไปแล้วการมองโลกแง่บวก ถือเป็นความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ รูปแบบหนึ่ง ที่ยึดมั่นกับเป้าหมายระยะยาว ไม่ย่อท้อ แม้เจออุปสรรคก็มีความเพียรเพราะเชื่อว่าจะไปถึงเป้าหมายได้สักวัน ซึ่งคุณลักษณะนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และทำตามได้
ทั้ง 20 ข้อนี้อาจมีทั้งที่พ่อแม่ทำได้ทันที หรือต้องใช้เวลา บางข้ออาจอยู่เหนือความควบคุมและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การที่รู้ว่าพ่อแม่มีส่วนสำคัญไม่น้อยต่อความสำเร็จของลูก ก็อาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เป็นแนวทาง เพื่อส่งเสริมให้ลูกไปสู่ความสำเร็จได้
สุดท้ายแล้ว ต้องไม่ลืมว่า นิยามความสำเร็จในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน และนิยามความสำเร็จของลูกก็อาจไม่ตรงกับความคาดหวังของพ่อแม่ เหนือสิ่งอื่นใดคือการยอมรับและเข้าใจตัวตนของลูก เพราะคงไม่มีความสำเร็จใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า การเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นมนุษย์ที่มีความสุข ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายใบนี้
แหล่งอ้างอิง (Sources) :
Related Courses
ฝึกเด็กเล็กเอาตัวรอดจากภัยในชีวิตประจำวัน
ภัยในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กๆ ของเรา ดังนั้นผู้ปกครองหรือคุณครูควรสอนตั้งแต่เด็กเล็กๆ เพื่อให้เด็กมี ...



ฝึกเด็กเล็กเอาตัวรอดจากภัยในชีวิตประจำวัน
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
การสื่อสารภาษาอังกฤษ ใครว่ายาก? หากเราเข้าใจ และสื่อสารมันจากความรู้สึก และไม่ต้องกังวลจนเกินไป ในคอร์สเรียนนี้เราจ ...



How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
การซ่อมแซมของใช้ในชีวิตประจำวัน
อุปกรณ์ของใช้ในบ้านเมื่อใช้ไประยะหนึ่งอาจชำรุดเสียหายได้ ถ้าเรารู้จักวิธีซ่อมแซมจะทำให้สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกซึ่งเป็นการประหยั ...



How to เรียนรู้ รักให้เป็น
คอร์สเรียน How to เรียนรู้ รักให้เป็นนี้ จะเป็นคู่มือความรักสำหรับคนที่มีหัวใจ ให้ทุกคนได้เข้าใจความหมายของการรักที่ใช้ 'หัว' ...



How to เรียนรู้ รักให้เป็น
ต้องใช้ 100 เหรียญ
Related Videos


EP:1 Chef’s Table Eat & EDUCATE How to พ่อแม่ยุคใหม่ ทำงานเก่ง เลี้ยงลูกเป็นเลิศ


108 ปัญหาพ่อแม่ และลูกวัยรุ่น


Starfish Trend Talk | EP.2 | : คำพูดกดทับที่ครูและผู้ปกครองไม่ควรใช้กับเด็ก

