จิตวิทยาในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ยุคใหม่
การเลี้ยงลูกใครบอกว่าง่ายไม่จริงเลยนะคะ ยิ่งเป็นยุคนี้แล้วการเลี้ยงลูกนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ ค่ะ และพ่อแม่ยุคนี้นั้นส่วนใหญ่ก็ทำงานกัน ทำให้เด็กถูกคนอื่นๆ เลี้ยงมา เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจที่พ่อแม่จำเป็นต้องทำมาหากิน จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผู้ปกครองกับลูก ยิ่งไปกว่านั้นพ่อแม่เองก็พลาดช่วงเวลาที่สำคัญของลูกในวัยที่กำลังพัฒนาด้านต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้เด็กในยุคที่เรียกว่าโตมากับสิ่งอำนวจความสะดวกมากมาย และเทคโนโลยีไร้สายแบบนี้ ยิ่งทำให้การเลี้ยงลูกนั้ยยากเข้าไปกันใหญ่ เด็กจะมีความอดทนและรอคอยได้น้อยลง แถมยังไม่มีสมาธิใดๆ อีกด้วย
ทำให้พ่อแม่อย่างเราๆ ควรที่จะดูแลลูกเอง มีเวลาให้เขา และเป็นต้นแบบที่ดี ที่เราจะทำได้ ดังนั้นวันนี้เราเลยนำเรื่องเกี่ยวกับ จิตวิทยาในการเลี้ยงลูกเชิงบวกมาฝากคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่กัน เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในการเลี้ยงลูกได้ดียิ่งขึ้น ตามไปดูกันเลย
1.ให้ความอบอุ่นปลอดภัยระหว่างกัน
ถือเป็นเรื่องสำคัญเลยเรื่องหนึ่ง หากคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกยุคนี้ก็ควรที่จะมอบความรัก ความเอาใจใส่ที่เพียงพอให้กับลูก เพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย โดยการรับฟังลูกและยอมเปิดใจในความชอบหรือความคิดเห็นของลูกให้มาก ก็จะทำให้ลูกไว้วางใจเรามากขึ้นได้นั้นเองค่ะ
2.ค้นหาจุดแข็งจุดอ่อนของลูกให้ได้
เด็กๆ ทุกคนมักจะมีความถนัดรอบด้านที่แตกต่างกัน ในฐานะพ่อแม่จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความภาคภูมิใจในตนเองของลูกเอาไว้ คอยโน้มน้าวลูกเมื่อเข้ารู้สึกผิดหวังหรือล้มเหลว เราจะต้องพยายามหาสิ่งที่เป็นจุดอ่อนจุดแข็งของลูก แต่ไม่ใช่การบังคบหรือการดุด่าให้เขาพยายามทำให้ได้ เพราะมิเช่นนั้นเด็กๆ จะทำในสิ่งที่สวนทาง หรือมีการปิดกั้นตัวเองจนในที่สุด หรือเกิดการโกหกเกิดขึ้นโดยที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
3.การพูดคุยสื่อสารกันระหว่างพ่อแม่และลูก
การพูดคุยกันภายในบ้านถือเป็นการลดช่องว่างระหว่างวัย และบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้านได้ แถมยังทำให้ลูกเปิดใจกับเราได้มากขึ้น โดยระหว่างการสื่อสารนั้นคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องแสดงท่าที่ที่ดูตั้งใจฟัง มีการสบตาและพยักหน้าระหว่างฟังลูกด้วย อีกทั้งการพูดกระตุ้นเช่น “ยังไงอีก เล่าต่อสิ” ก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ลูกเผยความในใจและเปิดใจกับพ่อแม่มากยิ่งขึ้นด้วย สุดท้ายการสื่อสารก็ต้องมีการให้คำแนะนำและวิจารณ์โดยแค่รับฟังจากมุมมองความรู้สึกของเขาจนจบ เพื่อให้ลูกเห็นว่าเราไว้วางใจและยอมรับความรู้สึกของเขาไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม พยายามให้เขาคิดและกระตุ้นให้เขาหาทางแก้ไขด้วยตนเองเสียก่อน
4.การควบคุมอารมณ์
ทั้งนี้เป็นการสอนลูกให้รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง แต่ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะไปสอนลูก เพราะหากเรายังขาดสติ อาจจะทำให้เราหลุดทำร้ายลูก ตีลูกหรือใช้คำรุนแรงกับลูกได้ เพราะเด็กๆ จะเลียนแบบพฤติกรรมของเราหากเรายังควบคุมสติไม่ได้เช่นกัน เมื่อคุมสติได้แล้ว ก็สอนให้เรื่องการคุมอารมณ์ให้กับลูก เช่นมองดูว่าสถานการณ์นั้นๆ เป็นแบบไหน หากไม่ไหวจริงๆ ให้เดินออกมา หรือนับ 1-10 ในใจ นั้นเองค่ะ เพราะในสถานการณ์จริงนั้น เด็กๆ อาจจะเกิดคนที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเราจะต้องใช้โอกาสนี้คอยสอนให้รู้จักอารมณ์และรู้วิธีการจัดการอารมณ์ที่ดีให้ได้
5.ตั้งกติกาในบ้าน
ในการตั้งกติการภายในบ้านกับลูก สิ่งแรกคุณพ่อคุณแม่เองต้องตกลงให้ได้ในทิศทางเดียวกันเสียก่อนค่ะ เพื่อให้เด็กๆ ไม่เกิดความสับสน ไม่ใช่พ่อเข้มงวดเรื่องนี้ แต่แม่ให้อิสระในการคิด ก็จะทำให้ลูกไม่สนใจข้อตกลงที่ตั้งไว้ และสับสนได้นั้นเองค่ะ
6.อย่าเปรียบเทียบ
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเปรียบเทียบลูกของเรากับลูกของคนอื่น อย่ามองลูกของเราว่าเขาด้อยหรือไม่ดีไปกว่าใคร พยายามเข้าใจพื้นฐานของเด็กแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน เด็กบางคนเก่งอีกอย่างอาจจะไม่เก่งอีกอย่างก็ได้ ซึ่งเราเองก็ต้องเข้าใจและพยายามหาวิธีเลี้ยงดูที่เหมาะสมกับเขาให้ได้ พยายามสังเกตว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอะไร จุดเด่นจุดด้อยเขาเป็นแบบไหน เพื่อจะได้สามารถปรับใช้และส่งเสริมได้อย่างเหมาะสม และเติบโตไปด้วยสภาพจิตใจที่แข็งแรง และเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นนั้นเองค่ะ
7.ให้ทางเลือกลูก
เชื่อว่าเด็กต้องชอบวิธีนี้อย่างแน่นอน เพราะการมีทางเลือกจะทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น สามารถเลือก และตัดสินใจด้วยตนเองได้ และยังเป็นการฝึกให้เขาเติบโตและตันสินใจด้วยตนเองได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น “ใกล้จะถึงเวลานอนแล้ว หนูจะไปแปรงฟันกับแม่ก่อน หรือหนูจะอ่านหนังสือนิทานก่อนสักเล่มดีคะ” เป็นต้น
Related Courses
How to Play : กลเม็ดพิชิตใจเด็ก
“เล่นให้เด็กติดใจ”จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปถ้าหากเรารู้เคล็ดลับบทเรียนนี้จะช่วยให้คุณ “เป็นคนที่ เล่นอย่างสนุก”“เข้าใจวิธีการเ ...
พัฒนาการด้านร่างกายสำคัญอย่างไร
เรียนรู้ความสำคัญ ตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย แนวทางการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการด้านร่า ...
DIY กระถางต้นไม้ทำมือ
การปลูกต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น อีกทั้งยังใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย กระถางต้นไม้ก็เป็นส่วนสำคัญในการปลูกต้นไม้ มาฝึกทำกระ ...
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
การสื่อสารภาษาอังกฤษ ใครว่ายาก? หากเราเข้าใจ และสื่อสารมันจากความรู้สึก และไม่ต้องกังวลจนเกินไป ในคอร์สเรียนนี้เราจ ...
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
ต้องใช้ 100 เหรียญ